จากกรณีคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้าน (กทบ.) หรือกองทุนเงินล้านสมาชิก กทบ. ในอ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ 38 กองทุน กว่า 6,800 คน ตบเท้าแฉพฤติกรรมของแม่บ้าน หรือเจ้าหน้าที่ธนาคารออมสินที่ ยักยอกเงินกู้เกือบ 30 ล้านบาท ใช้เครื่องพิมพ์ดีดปรับสมุดบัญชีตบตา อ้างเงินเข้าระบบ รอเบิก ก่อนล่องหนทั้งคนทั้งเงิน ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์เผยได้รับแจ้งจากออมสินสาขาใหญ่ เตรียมเยียวยาชาวบ้านลูกหนี้ กทบ. ตามข่าวที่เสนอแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 3 ก.ย. บรรยากาศตามที่ทำการกองทุนเงินล้าน หรือ กทบ. ในพื้นที่ อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ คณะกรรมการกองทุนและสมาชิก กทบ. ยังคงจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากได้รับความเดือดร้อน โดยทุกคนยืนยันบุคคลที่ก่อเหตุคือแม่บ้าน ที่ทำหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่ธนาคาร เพราะเห็นรับผิดชอบเอกสารและการเงินเกี่ยวกับ กทบ. โดยเฉพาะเห็นสวมใส่ชุดทำงาน เป็นเจ้าหน้าที่ประจำธนาคารออมสิน สาขากุฉินารายณ์ มาเป็นเวลากว่า 10 ปี
นายเสวต ศรีโยธี ประธานเครือข่าย กทบ.อ.กุฉินารายณ์ กล่าวว่า ประธาน กทบ. รวมทั้งเครือข่าย กทบ. ในพื้นที่ อ.กุฉินารายณ์ ทุกกองทุน รวมทั้งพนักงาน เจ้าหน้าที่ธนาคารออมสิน สาขากุฉินารายณ์เอง ต่างรับรู้ว่าผู้หญิงคนดังกล่าว ทำหน้าที่ดูแลเกี่ยวกับ กทบ. เพราะทุกครั้งที่ไปติดต่อ ก็จะได้รับคำชี้แนะจากพนักงานหน้าเคาน์เตอร์ ให้ติดต่อกับพนักงานหญิงคนนี้ แต่พอเกิดปัญหายักยอกเงิน กทบ. กลับบอกว่าเป็นแม่บ้าน ทำให้ทุกคนที่ทราบเรื่องงุนงงไปหมด อย่างไรก็ตาม ทางธนาคารออมสิน จะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้แน่นอน และประธาน กทบ. จะแจ้งความดำเนินคดี กับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างถึงที่สุด เพราะเคยแจ้งบริหารระดับสูงของธนาคารออมสินแล้ว เกี่ยวกับพฤติกรรมของแม่บ้านคนนี้เมื่อปีที่ผ่านมา เนื่องจากมีหลายกองทุน ประสบปัญหาความล่าช้าของการเบิกจ่าย แต่ยังเพิกเฉย ไม่จัดการกับแม่บ้านคนนี้ จนกระทั่งเกิดเรื่องขึ้นจนได้
ด้านนายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ผวจ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นในธนาคารออมสิน สาขากุฉินารายณ์ ที่มีบุคคลยักยอกเงิน กทบ. ไปดังกล่าว เมื่อวันที่ 1 ก.ย. 66 ที่ผ่านมา นายศรชัย จันโทวงษ์ ผู้อำนวยการธนาคารออมสินภาค 11 ได้เข้ามาพบตน โดยชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้น พร้อมรายงานว่า ล่าสุดได้สั่งย้ายผู้บริหารระดับสูงของธนาคารออมสิน สาขากุฉินารายณ์ออกนอกพื้นที่แล้ว 3 คน ส่วนแม่บ้านที่เป็นต้นเหตุ ทราบว่าถูกกองทุนและบุคคลภายนอกแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.กุฉินารายณ์ ไว้แล้ว 31 คดี และกำลังดำเนินการรวบรวมเอกสารเข้าแจ้งความอีก 5 กองทุน รวมเป็น 36 คดี มูลค่าความเสียหายเบื้องต้นไม่น้อยกว่า 28 ล้านบาท
นายศุภศิษย์ กล่าวอีกว่า จากรายงานของผู้อำนวยการธนาคารออมสินภาค 11 ยังทราบว่า ทางบอร์ดใหญ่ธนาคารออมสิน ยังได้ตั้งคณะตรวจสอบข้อเท็จจริง และคณะตรวจสอบความเสียหาย เพื่อเข้ามาแก้ไขปัญหา และหามาตรการเยียวยากองทุนและสมาชิก กทบ. ที่ได้รับความเดือดร้อน ซึ่งหากกองทุนและสมาชิก กทบ. ทำหน้าที่สุจริต ก็จะได้รับการเยียวยาอย่างครบถ้วนในลำดับต่อไป
อย่างไรก็ตาม มีรายงานจาก สภ.กุฉินารายณ์ว่า ข้อมูลการรับเรื่องแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษแม่บ้านธนาคารออมสิน เมื่อวันที่ 31 ส.ค. 66 ที่ผ่านมา มีเข้ามาแจ้งความ 31 กองทุน ประกอบด้วย สถาบันการเงินบ้านกุดหว้า และบุคคลภายนอก 9 ราย รวมเป็นเงิน 26,595,108 บาท ทั้งนี้คาดว่ายังจะมีกองทุนและผู้เสียหายแจ้งความเพิ่มอีก ความเสียหายในภาพรวมไม่น้อยกว่า 30 ล้านบาท โดยล่าสุดพนักงานสอบสวน สภ.กุฉินารายณ์ ได้ยื่นคำร้องขออำนาจศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ออกหมายจับแม่บ้านธนาคารออมสินคนดังกล่าว ข้อหา “ยักยอก ,ลักทรัพย์ ,ปลอมเอกสารสิทธิ์ และใช้เอกสารสิทธิปลอม” โดยประกาศสืบจับไว้แล้วเนื่องจากหลบหนี.