จากกรณีคลิปรถตู้คันหนึ่งจอดขวางกลางสี่แยกภัทรบพิตร ต.เสม็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ แล้วมีคนลงมายืนโบกให้สัญญาณ ให้ขบวนรถตู้ของ “สายลมคลับ” กว่า 70 คัน วิ่งผ่านได้อย่างสะดวก โดยไม่ต้องรอไฟเขียวหรือไฟแดงที่ยังคงทำงานตามปกติ จนกระทั่งเกิดอุบัติเหตุรถพุ่งชนกันกลางสี่แยก เพราะอีกฝั่งหนึ่งเป็นไฟเขียว จนชาวเน็ตต่างออกมาวิจารณ์กันเป็นวงกว้างถึงความเหมาะสม ต่อมามีตัวแทนรถตู้กลุ่ม “สายลมคลับ” ได้ออกมาขอโทษเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อ้างว่าต้องการพาพวกไปทำบุญที่วัดป่าเขาน้อย ต.เสม็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งจะต้องเดินทางเป็นขบวน โดยขออนุญาตตำรวจจราจร สภ.เมืองบุรีรัมย์ มาอำนวยความสะดวก แต่เนื่องจาก เจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ เพราะเป็นวันซ้อมรับปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ จึงตัดสินใจทำกันเอง

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 4 ก.ย. พนักงานสอบสวน สภ.เมือง เมืองบุรีรัมย์ ได้เรียกเจ้าของรถตู้ที่จอดขวางกลางสี่แยก มาเปรียบเทียบปรับฐานกีดขวางการจราจร เป็นเงิน 2,000 บาท ส่วนกรณีอุบัติเหตุ ทั้งสองตกลงกันได้ ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และให้ถือเป็นอุทาหรณ์ ในการใช้รถใช้ถนนต่อไป

อย่างไรก็ตาม หลังจากตำรวจปรับเงินรถตู้ปิดแยกไปแล้ว ได้มีชาวบ้านในพื้นที่รวมทั้งชาวเน็ตที่พบเห็นเหตุการณ์ในคลิปโลกออนไลน์ ตั้งคำถามว่า ทำไมตำรวจมองว่าเป็นเรื่องปกติทั้งที่เป็นการกระทำอุกอาจเป็นอันตรายต่อการสัญจรไปมา แม้เกิดอุบัติเหตุไม่ร้ายแรงและตกลงกันได้ก็ตาม อีกทั้งยังแจ้งปรับรถตู้คันที่จอดกีดขวางการจราจร ส่วนรถตู้ขับฝ่าสัญญาณไฟแดงหลายคันกลับไม่กล่าวถึง ทั้งที่ความผิดสำเร็จไปแล้ว ทำให้เกิดความสงสัยว่า จะมีการเรียกมาปรับเงินในภายหลังหรือไม่?