เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 5 ต.ค. ร.ต.อ.อธิคม แสวงจิตต์ รอง สว.(สอบสวน) สน.ราษฎร์บูรณะ รับแจ้งเหตุชายถูกไฟฟ้าช็อตเสียชีวิต 2 ราย หน้าบ้านเลขที่ 388 ซอยสุขสวัสดิ์ 62 แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ จึงไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลศิริราช และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุเป็นตึกแถวร้าง สูง 4 ชั้น ด้านหน้าริมกำแพงปูน พบศพนายกำพล (สงวนนามสกุล) อายุ 63 ปี นอนตะแคง ในชุดเสื้อแขนกุดสีเขียวขี้ม้า นุ่งกางเกงขาสามส่วนสีดำ ขาพาดอยู่บนแท่นปูนของตู้สัญญาณโทรศัพท์ของบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ใกล้กันพบศพนายสมโชค (สงวนนามสกุล) อายุ 44 ปี อยู่ในชุดเสื้อยืดแขนสั้นสีน้ำเงิน นุ่งกางเกงยีน นอนคว่ำหน้า แขนซ้ายกำคีมตัดเหล็กขนาดใหญ่ ซึ่งปากของคีมยังติดคาอยู่กับสายไฟ สภาพศพทั้งคู่ตัวแข็งทื่อ ปากเขียวคล้ำ ตรวจสอบในกระเป๋าสะพายของนายสมโชค พบไฟฉายติดหน้าผากแบบส่องกบ 1 อัน มีดคัตเตอร์ 2 อัน โทรศัพท์มือถือ บุหรี่ และเงินสดจำนวนหนึ่ง จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าทำการตัดไฟ ก่อนจะชันสูตรพลิกศพ

นอกจากนี้บนฟุตปาธยังพบรถกระบะ อีซูซุ แบบแค็บ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ฒญ 2413 กรุงเทพมหานคร ฝาท้ายเปิด โดยมีตู้สัญญาณโทรศัพท์ขนาดความสูง 1.50 เมตร กว้าง 1 เมตร น้ำหนักประมาณ 100 กิโลกรัม ถูกถอดนอตยึดพื้น ยกพาดไว้ที่ฝาท้าย

ต่อมาได้มีนายกฤษดา ประถมพืช อายุ 41 ปี เจ้าของรถกระบะ เดินทางมาที่เกิดเหตุ พร้อมให้การอ้างว่า ตนพักอาศัยอยู่ย่านเทียนทะเล ช่วงบ่ายวานนี้ ได้นำพัดลมที่เสียไปซ่อมย่านประชาอุทิศ หลังจากนั้นได้แวะไปหานายกำพล ซึ่งเป็นช่างซ่อมรถ ในซอยสุขสวัสดิ์ 60 เพื่อตรวจเช็กสภาพรถ กระทั่งนายกำพล ได้ขับรถออกไปกับนายสมโชค ซึ่งเป็นช่างก่อสร้าง บอกว่าจะเอารถไปลอง แล้วก็หายไปเลย มาทราบอีกทีตอนตำรวจโทรศัพท์มาแจ้งข่าว ซึ่งตนยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้แต่อย่างใด

ด้านนายสุขประเสริฐ พรเพ็ญพิพัฒน์ อายุ 40 ปี ซึ่งพักอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ ให้การว่า ช่วงตีสามได้ยินเสียงสุนัขเห่า ออกมาดูก็เห็นรถกระบะจอดอยู่บนฟุตปาธ แต่ไม่เห็นตัวคน มาทราบอีกทีตอนพบศพแล้ว เมื่อตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดใกล้เคียงที่เกิดเหตุพบว่า รถกระบะคันดังกล่าว มาจอดช่วงประมาณ 23.00 น. วานนี้ (4 ต.ค.) แต่คาดว่าเริ่มก่อเหตุหลัง 00.10 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงตั้งแต่เดือน ก.ย. จนถึงวันนี้ (5 ต.ค.) สามารถยึดรถกระบะที่ลักขโมยตู้สัญญาณโทรศัพท์ของบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ได้รวม 3 คันแล้ว แต่คนร้ายได้แค่นำมาถ่ายรูปทำประวัติ ก่อนปล่อยตัวไป เพราะทางบริษัทฯ ไม่ส่งเจ้าหน้าที่มาแสดงตัวว่าเป็นผู้เสียหาย จึงทำให้คนร้ายย่ามใจออกอาละวาดทั่วกรุง.