เมื่อวันที่ 12 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 9 ต.ค.ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ธานินทร์ กันภัย สว.(สอบสวน) สภ.เมืองนครพนม ได้ทำการตรวจสอบของกลางคดียาเสพติด เพื่อนำส่งที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 4 จ.ขอนแก่น พบว่าไอซ์ ของกลางหายไป 1 กิโลกรัมก่อนมีการตรวจวงจรปิดหน้าห้องควบคุมผู้ต้องหา พบหลักฐานวันที่ 4 ต.ค. ปรากฎภาพ ด.ต.สกลนคร (สงวนนามสกุล) อายุ 51 ปี สิบเวรควบคุมผู้ต้องหา เข้าไปในบริเวณพื้นที่เก็บของกลางอยู่นานพอสมควรเพียงคนเดียว โดยไม่พบว่ามีตำรวจนายอื่นเข้าไปอีก จึงรายงาน พ.ต.อ.ภาคภูมิ เดชะเรืองศิลป์ ผกก.สภ.เมืองนครพนม ทราบตามลำดับชั้น

จากนั้นวันที่ 10 ต.ค. เวลา 07.00 น. พ.ต.อ.ภาคภูมิ ผกก.เมืองนครพนม นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนบุกเข้าจับกุม ด.ต.สกลนคร ที่ แฟลตบ้านพักข้าราชการตำรวจ(แฟลตบ้านน้อย) เลขที่ 117/66 ต.หนองญาติ อ.เมือง จ.นครพนม โดย ด.ต.สกลนคร ยอมรับสารภาพว่าเป็นคนนำยาไอซ์ของกลางออกมาเอง ก่อนเข้าไปในครัวหลังบ้านนำไอซ์ของกลางดังกล่าวที่ถูกแบ่งบรรจุไว้ในกระปุกพลาสติกใส 2 ขวด และมีถุงบรรจุเดิมจากห้องเก็บของกลางรวมอยู่ด้วยชัดเจนรวมอยู่ด้วย

จึงควบคุมตัว ด.ต.สกลนคร ไปตรวจปัสสาวะยืนยันที่โรงพยาบาลนครพนม พบฉี่ม่วง จึงแจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์)ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1(เมทแอมเฟตามีน) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย, ลักทรัพย์ในสถานที่ราชการในเวลากลางคืน,เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

สำหรับของกลางดังกล่าวเป็นคดีเจ้าหน้าที่ศุลกากรนครพนม นำกำลังเข้าแสดงตัวขอตรวจค้นรถบรรทุกพ่วง 22 ล้อ ต้องสงสัยขนปูนซีเมนต์ถุงมาจากฝั่งสปป.ลาว ลักษณะต้องสงสัยผ่านมาทางด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพ แห่งที่ 2 ช่องขาเข้าประเทศไทย เม่อวันที่ 2 ต.ค.ที่ผ่านมา พบของกลางไอซ์จำนวนมากดังกล่าว และมีการแถลงผลการจับกุมในวันที่ 3 ต.ค. ก่อนนำสั่ง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครพนม สอบสวนดำเนินคดี กระทั่งตรวจสอบพบว่าของกลางบางส่วนหายไป ก่อนสืบสวนจับกุม ด.ต.สกลนคร ได้ดังกล่าว