สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ เมื่อวันที่ 16 ต.ค. ว่า เอ็กซิตโพลของการเลือกตั้งทั่วไปในโปแลนด์ ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 ต.ค. ที่ผ่านมา ปรากฏว่า พรรคแนวร่วมพลเมือง ของนายโดนัลด์ ทัสก์ อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตประธานคณะมนตรีสหภาพยุโรป (อียู) จะได้รับการเลือกตั้ง 163 ที่นั่ง จากทั้งหมด 460 ที่นั่งในรัฐสภาโปแลนด์
เมื่อรวมกับพรรคเล็กอีก 2 พรรค ซึ่งคาดว่าได้รับ 55 ที่นั่ง และ 30 ที่นั่ง นั่นจึงทำให้พรรคร่วมฝ่ายค้านมีทั้งหมด 248 ที่นั่ง ซึ่งมากกว่าพรรคพีไอเอส และพรรคร่วมรัฐบาล ที่น่าจะได้รับการเลือกตั้งรวมกันแค่ 212 ที่นั่ง
#UPDATE Polish opposition parties are tipped to win a parliamentary majority in Sunday's election, which would end eight years of rule by the populist Law and Justice (PiS) party, according to exit polls.https://t.co/bzCn2KGoas pic.twitter.com/nuwa2xn0yf
— AFP News Agency (@AFP) October 15, 2023
“โปแลนด์ชนะแล้ว ประชาธิปไตยชนะแล้ว” ทัสก์ กล่าวด้วยความยินดี หลังมีการเปิดเผยผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ “มันเป็นจุดจบของช่วงเวลาที่เลวร้าย และการปกครองของพรรคพีไอเอสสิ้นสุดลงแล้ว”
ในช่วงการรณรงค์หาเสียง ทัสก์ให้สัญญาว่าจะฟื้นฟูความสัมพันธ์ที่ดีกับอียู และยกเลิกการระงับเงินทุนของอียู ตลอดจนสนับสนุนการทำแท้งอย่างถูกกฎหมาย ซึ่งเป็นประเด็นขัดแย้งสำคัญต่อรัฐบาล ที่เน้นย้ำถึงคุณค่าดั้งเดิมของศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิก

แม้นายยาโรสลาฟ คาซินสกี หัวหน้าพรรคพีไอเอส ซึ่งเป็นพรรคประชานิยมขวาจัดของโปแลนด์ และเป็นพรรคแกนนำรัฐบาลชุดปัจจุบัน กล่าวว่า เขายังคงมี “ความหวัง” ที่พรรคของเขาจะสามารถตั้งรัฐบาลชุดต่อไปได้ แต่นายสตานิสลาฟ โมเชค นักวิเคราะห์การเมือง แสดงความเห็นว่า เอ็กซิตโพลดังกล่าว บ่งบอกถึงจุดสิ้นสุดของพรรคพีไอเอส
ขณะเดียวกัน นายมิคาล บารานาวสกี นักวิเคราะห์อีกคนหนึ่งจากกองทุนเยอรมัน มาร์แชลล์ (จีเอ็มเอฟ) ระบุว่า ขณะนี้โปแลนด์สามารถกลับไปเป็นศูนย์กลางการตัดสินใจของอียูได้แล้ว อีกทั้งเอ็กซิตโพล ยังชี้ให้เห็นถึงความเป็นไปได้ ที่โปแลนด์จะมี “รัฐบาลฝ่ายค้านที่มั่นคง” ด้วย
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์หลายคนเตือนว่า แนวร่วมรัฐบาลใด ๆ ที่จัดตั้งโดยฝ่ายค้าน อาจต้องเผชิญกับความขัดแย้งบ่อยครั้งกับประธานาธิบดีอันด์แซย์ ดูดา ผู้นำโปแลนด์คนปัจจุบัน ซึ่งเป็นพันธมิตรของพรรคพีไอเอส.
เครดิตภาพ : AFP