เมื่อวันที่ 6 ก.ค. ที่กรมศุลกากร นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง พร้อมด้วย นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด และนายถวัลย์ รอดจิตต์ ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี ร่วมแถลงจับกุมเฮโรอีนน้ำหนักรวม 314.62 กิโลกรัม ซุกซ่อนในถังสีอะคริลิกเตรียมส่งออกไปประเทศออสเตรเลีย โดยนายสันติ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นผลงานร่วมมือกันระหว่างเจ้าหน้าที่ไทยและออสเตรเลีย ซึ่งผู้ที่ลักลอบหรือขนสิ่งผิดกฎหมายจะทำรูปแบบต่างๆ แต่ด้วยความรอบครอบของเจ้าหน้าที่กรมศุลกากร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบกับเครื่องเอกซเรย์ที่สามารถตรวจดูภายในตู้คอนเทเนอร์ได้ ทำให้วิเคราะห์และยึดยาเสพติดได้มหาศาล สามารถสื่อสารไปถึงประชากรโลกว่า ประเทศไทยมีความเข้มงวดในการตรวจสอบและจะติดตามดำเนินคดีเครือข่ายค้ายาเสพติดให้ถึงที่สุด

ยึดไอซ์750กรัมซุกอะไหล่จยย. จ่อส่งต่อไปออสเตรเลีย

นายพชร กล่าวว่า กรมศุลกากร มีการเฝ้าระวังและติดตามสินค้ากลุ่มเสี่ยงที่จะมีการลักลอบนำยาเสพติดไปนอกราชอาณาจักรอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะช่วงการระบาดของสถานการณ์โควิด-19 ที่ประชาชนเดินทางเคลื่อนย้ายลดลง แต่สิ่งของมีการเคลื่อนย้ายเกือบปกติ ซึ่งอาจมีสิ่งของไม่ถูกต้องหรือยาเสพติดซุกซ่อนอยู่ กรมศุลกากรจึงสามารถตรวจจับยาเสพติดลอตใหญ่และส่งทางไปรษณีย์ได้เพิ่มขึ้น โดยเมื่อวันที่ 5 ก.ค. สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบสินค้าขาออก พบสินค้าที่มีความสงสัยเตรียมส่งออกไปยังประเทศออสเตรเลีย สำแดงสินค้า 2 รายการ เป็นสีอะคริลิก ปริมาณ 270 ถัง น้ำหนัก 6,750 กิโลกรัม ซึ่งเข้าเงื่อนไขให้เปิดตรวจ (Red line) โดยระบบบริหารความเสี่ยงกรมศุลกากรทั้ง Central Profile และ Local Profile ประกอบกับการใช้เทคโนโลยีทางศุลกากรในการเอกซเรย์ ตรวจสอบภาพพบความผิดปกติ ซึ่งสินค้าเป็นสีอะคริลิกบรรจุถังพลาสติกสีฟ้า 135 ถัง และสีอะคริลิกบรรจุถังพลาสติกสีม่วง 135 ถัง

อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวอีกว่า หลังเอกซเรย์ดูรายละเอียดหลายมิติ พบว่าถังสีฟ้ามีรูปวัตถุสี่เหลี่ยมซ่อนอยู่ภายในเมื่อเปิดถังตรวจสอบพบวัตถุต้องสงสัยบรรจุในกล่องพลาสติกสีใสขนาด 18 x 18 x 12 เซนติเมตร ห่อด้วยเทปพลาสติกสีน้ำตาล น้ำหนักประมาณ 2.4 กิโลกรัม/หีบห่อ มีแพ็กเกจเป็นสิงโตเหยียบลูกโลก ตรวจสอบเบื้องต้นด้วย Test Kits บ่งบอกเป็นยาเสพติดประเภทเฮโรอีน รวมน้ำหนัก 314.63 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 943.89 ล้านบาท ซึ่งเป็นความผิดตาม มาตรา 202 มาตรา 244 ประกอบมาตรา 252 แห่งพ.ร.บ.กรมศุลกากร พ.ศ.2560 และ พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 จึงยึดไว้เป็นของกลางพร้อมทั้งประสานข้อมูลกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสืบสวนขยายผล

นายวิชัย กล่าวว่า การสกัดยาเสพติดในประเทศปีนี้ สามารถสกัดกั้นเฮโรอีนได้ 1.7 ตัน หากรวมกับที่ยึดวันนี้ รวมเป็น 1.8 ตัน โดยจากการสืบสวนคดีนี้ปรากฏหลักฐานการส่งสินค้าชัดเจน เมื่อนำไปตรวจสอบในฐานข้อมูลพบว่าเชื่อมโยงกับเครือข่ายยาเสพติดที่เคยซุกซ่อนยาเสพติดในอะไหล่รถจักรยานยนต์เตรียมส่งไปไต้หวันและออสเตรเลีย โดยเครือข่ายนี้ลักลอบส่งยาเสพติดไปต่างประเทศ 4-5 ครั้ง เจ้าหน้าที่จึงตามจับกุมผู้ส่งสินค้าได้แล้วบางส่วน เบื้องต้นให้การว่ารับการว่าจ้างจากผู้ต้องหาที่มีหมายจับและกำลังหลบหนีอยู่ใน สปป.ลาว ให้ส่งสินค้าดังกล่าวไปออสเตรเลีย ซึ่ง ป.ป.ส.ได้ประสานไปอัครทูตที่ปรึกษาของ ป.ป.ส.ประจำนครเวียงจันทน์ สปป.ลาว ดำเนินการต่อสืบสวนขยายผลขบวนการยาเสพติดดังกล่าวต่อไป