เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 23 ต.ค. ที่ศูนย์ประสานงานเพจสายไหมต้องรอด ซอยสายไหม 38 เขตสายไหม กรุงเทพฯ น.ส.พิศอาภรณ์ สังข์ทอง หรือ แอน อายุ 29 ปี แม่ของ “น้องออร์แกน“ ทารกวัยเพียง 2 วัน เข้าร้องเรียน นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เพื่อขอความเป็นธรรม กรณีโรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่ง ใน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เรียกค่าผ่าคลอด 7,000 บาท แต่ตนไม่มีเงิน จึงให้ใช้ยาเหน็บเร่งคลอด กระทั่งทารกเสียชีวิต หลังคลอดออกมาได้เพียง 2 วัน

น.ส.พิศอาภรณ์ เล่าทั้งน้ำตาว่า เธอตั้งครรภ์ลูกคนแรก ตอนอายุครรภ์ได้ 2 เดือน ก็ไปฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่ง อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ตามสิทธิการรักษาประกันสังคม จากนั้นก็ไปพบแพทย์ตามนัดเรื่อยมา จนกระทั่งใกล้คลอด ตัวเธอเริ่มมีอาการเวียนหัว ปวดหัว และอาเจียน ประกอบกับมีโรคประจำตัว คือ โลหิตจาง เบาหวาน และความดันสูง จึงเริ่มมีความกังวลกลัวตัวเองและลูกจะเป็นอันตราย แล้วได้ปรึกษาแพทย์เรื่องการผ่าคลอด ซึ่งแพทย์ระบุว่าทำได้ แต่ต้องฝากพิเศษ มีค่าใช้จ่ายเป็นเงิน 7,000 บาท แต่เธอไม่มีเงิน จึงไม่ได้ฝากพิเศษตามที่แพทย์แนะนำ แล้วแพทย์ได้ให้ยาเร่งคลอดกับเธอ 3 ครั้ง หลังครรภ์ครบ 40 สัปดาห์ ซึ่งครั้งแรกกับครั้งที่ 2 ลูกในครรภ์ยังปกติดี แต่พอเหน็บเร่งคลอดครั้งที่ 3 ลูกของเธอก็มีอัตราการเต้นของหัวใจตกลงเรื่อยๆ จนแพทย์เข้ามาตรวจบอกว่ารกพันคอ ต้องรีบเอาตัวเข้าห้องผ่าตัดฉุกเฉิน และผ่าคลอดฉุกเฉินทันที แล้วปรากฏว่าเมื่อลูกคลอดออกมา ก็มีอาการขาดออกซิเจน มีภาวะหยุดหายใจ ปอดแตกจากการสำลักขี้เทา ต้องรีบส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลราชบุรี และเสียชีวิตเมื่อวันที่ 24 ก.ย. ที่ผ่านมา

น.ส.พิศอาภรณ์ เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มองว่าเกิดจากการรักษาที่ผิดพลาด โดยเฉพาะการที่แพทย์ให้เธอเหน็บยาเร่งคลอดครั้งที่ 3 แล้วไม่ยอมผ่าคลอดให้ รอจนกระทั่งลูกมีอาการผิดปกติ จนต้องผ่าคลอดฉุกเฉิน และที่ผ่านมา ได้ไปไกล่เกลี่ยถึง 4 ครั้ง แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบหรือการเยียวยาอะไรจากทางโรงพยาบาล รวมถึงแพทย์เจ้าของไข้ด้วย และแพทย์เจ้าของไข้บอกว่า หากจะฟ้องให้ไปฟ้องที่องค์กร ไม่ใช่มาฟ้องที่ตัวบุคคล เพราะแพทย์ทำดีที่สุดแล้ว ทำให้รู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม ประกอบกับเมื่อพูดถึงเงิน 7,000 บาท ที่เป็นเงินฝากพิเศษดังกล่าว กลับได้รับคำตอบว่า “ตอนนั้นเป็นการพูดเล่น” ก็ยิ่งทำให้เธอรู้สึกเสียใจ และอยากจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด

น.ส.พิศอาภรณ์ ยืนยันว่าทางครอบครัวจะไม่เผาลูกสาว และจะเดินหน้าเรียกร้องความยุติธรรมให้ “ น้องออร์แกน” ลูกสาวคนแรกให้ได้

ด้านนายเอกภพ กล่าวว่า หลังจากนี้จะประสานกระทรวงยุติธรรม ให้ประสานสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อผ่าชันสูตรน้องถึงสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง รวมถึงจะประสานสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เพื่อประสานเงินเยียวยาผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบจากการรักษา.