สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 25 ต.ค. ว่า นายอันโตนิโอ กูเตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) กล่าวต่อที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) เกี่ยวกับสงครามระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส ซึ่งปะทุเมื่อวันที่ 7 ต.ค. ที่ผ่านมา ว่าการเป็นฝ่ายเปิดฉากก่อความรุนแรงของกลุ่มฮามาส “ไม่มีข้อแก้ตัว”
อย่างไรก็ตาม การก่อเหตุของกลุ่มฮามาส “ไม่ได้เกิดขึ้นในภาวะสุญญากาศ” เนื่องจากชาวปาเลสไตน์อยู่ภายใต้การยึดครองมานาน 56 ปีแล้ว และ “การลงโทษแบบเหมารวม” ต่อชาวปาเลสไตน์ทั้งหมด เป็นการละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ หรือพูดให้ง่ายคือ ไม่มีคู่ขัดแย้งฝ่ายใดในสงครามที่จะสามารถอยู่เหนือกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศได้ พร้อมเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายหยุดยิงทันที
แม้ไม่ได้เอ่ยชื่ออิสราเอล แต่นายอีไล โคเฮน รมว.การต่างประเทศอิสราเอล แสดงความไม่พอใจอย่างหนักต่อคำกล่าวของเลขาธิการยูเอ็น โดยโต้แย้งด้วยภาพพลเมืองอิสราเอล ซึ่งเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจากการจู่โจมของกลุ่มฮามาส และภาพตัวประกันบางส่วน และยืนยันว่า อิสราเอล “มอบกาซาให้แก่ชาวปาเลสไตน์แล้วอย่างเบ็ดเสร็จ” หลังถอนทหารออกมา เมื่อปี 2548 อย่างไรก็ตาม อิสราเอลกลับมาปิดล้อมฉนวนกาซา ตั้งแต่ปี 2550
ขณะที่นายกิลาด เออร์ดัน เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำยูเอ็น เรียกร้องกูเตร์เรสลาออกจากตำแหน่งเลขาธิการสหประชาชาติ “เนื่องจากแสดงความเห็นอกเห็นใจต่อผู้ก่อการร้าย”
ด้านนายริยาด อัล-มาลิกี รมว.การต่างประเทศปาเลสไตน์ วิจารณ์ “การเล่นการเมือง” ของสมาชิกถาวรยูเอ็นเอสซี ซึ่งส่งผลให้ยังคงไม่มีการผ่านมติใด เพื่อหยุดยั้งสงครามครั้งนี้ได้.
เครดิตภาพ : AFP
