สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 8 พ.ย. ว่า รายงานโดยศูนย์บริการด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ของสถาบันโคเปอร์นิคัสแห่งสหภาพยุโรป (อียู) ระบุว่า อุณหภูมิเฉลี่ยของโลก เมื่อเดือน ต.ค. ที่ผ่านมา สูงกว่าราว 1.7 องศาเซลเซียส เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยอุณหภูมิเดือน ต.ค. ในช่วงยุคก่อนการปฏิวัติอุตสาหกรรม
ขณะที่อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกตั้งแต่เดือน ม.ค. ปีนี้ สูงกว่ายุคก่อนปฏิบัติอุตสาหกรรม ระหว่างปี 2393-2443 ราว 1.43 องศาเซลเซียส และเป็นสถิติสูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2483 และยิ่งเพิ่มความเป็นได้ ว่า 2566 จะเป็นปีซึ่งโลกมีอุณหภูมิเฉลี่ยสูงสุดเป็นประวัติการณ์
#Copernicus for #ClimateChange awareness
— Copernicus EU (@CopernicusEU) November 6, 2023
2023 is on track to be the hottest year on record
The latest article from our #CopernicusClimate Change Service discusses the implications of these record temperatures for #OurPlanet
Read more ???? https://t.co/8uBtDWHPdE pic.twitter.com/fZ7TDmRJdp
นอกจากนี้ อุณหภูมิเฉลี่ยของน้ำทะเลบนโลก เมื่อเดือน ต.ค. ที่ผ่านมา โดยไม่รวมอุณหภูมิในภูมิภาคขั้วโลก อยู่ที่ 20.79 องศาเซลเซียส เป็นสถิติสูงสุดเช่นกัน รายงานของสถาบันโคเปอร์นิคัสระบุด้วยว่า 90% ของความร้อนส่วนเกินที่มหาสมุทรกำลังดูดซับ เป็นผลจากกิจกรรมซึ่งเกิดขึ้นโดยมนุษย์.
เครดิตภาพ : AFP