เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 23 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกระแสไวรัลกับเมนูฮิตจากประเทศจีน อย่าง “เต้าหู้ขน” ที่กำลังแชร์กันจำนวนมากในโลกโซเชียล จนพี่ไทยเริ่มนิยมหามาลองกินกัน โดยล่าสุด หมอเอิร์ธ อติรุจ (เอิร์ธฐา) คุณหมอตัวจริง จากช่อง #AERTHAChannel ทางยูทูบ ได้ออกมาพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ทางติ๊กต็อก @aertha33 หัวข้อ “สรุปเต้าหู้ขนเนี่ย กินได้จริงไหม” โดยในคลิประบุว่า “ปกติไอ้ตัว ไรโซปัส โอลิโกสปอรัส ชาวอินโดนิเซีย ชาวจีน เขาก็เอามาหมัก เอามาประกอบอาหาร แล้วเอามากินกันในช่วงที่อาหารกำลังขาดแคลน คือเอามาปรับแต่งพันธุกรรมให้มันไม่เป็นพิษเป็นภัยต่อระบบร่างกายแล้วเอามาขายตามที่เห็นเลย
แต่สำหรับคนไทยบอกตรงๆ คือไม่ต้องไปหากินไปทั่วตามเขาทั้งหมด ซึ่งพรีไบโอติกส์ โพรไบโอติกส์ เนี้ยยังไม่มีเบเนติกชัดเจนว่าแบบกินไอ้พวกนี้เยอะๆแล้วจะได้โพรไบโอติกส์ และที่สำคัญเนี้ย เขาทำในเอ็นไวรอนเม้นท์ที่สะอาด ที่เห็นต้นคลิปคือทั้งมือ ทั้งเล็บ ห่อใบตองอีก แล้วเอามาตากอากาศข้ามคืน บอกเลยว่าอันนี้เป็นแหล่งเพาะเชื้อชั้นดีมาก ขนาดราตัวนี้ยังโตได้ แล้วแบบสภาพแวดล้อมแบคทีเรียอะไรต่างๆเนี้ยไม่ต้องพูดถึงเลย คนก็แท็กมาถามว่าไอ้แบบนี้กินได้ไหม คือเอาจริงๆถ้าเป็นคนปกติร่างกายแข็งแรงดีก็กินได้ คือพวกไรโซปรัส เนี้ยเวลามันเข้าไปโดนแก๊ส หรือความเป็นกรดในกระเพาะพวกนี้ก็ตาย เหมือนกับกินผักกินหญ้าปกติทั่วไป
คือแบบในโลกนี้มีอะไรน่ากินตั้งมากมาย ไม่รู้ว่าไปสรรหาแบบนี้มากินกันตอนไหน ที่นี้ข้อควรระวังคือ ไรโซปรัสเป็นราในกลุ่มของมิวคอร์ เพราะฉะนั้นสามารถทำให้เกิดโรคได้ โดยเฉพาะคนไข้ที่เป็นเบาหวาน เป็นมะเร็ง หรือผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะมาก็ตาม หรือคนไข้ที่ใช้ยากดภูมิ ใช้สเตียรอยด์นานๆ พวกนี้จะมีกลไกกำจัดเชื้อโรคไม่ดี ก็จะทำให้เกิดกลไกการเกิดโรคได้ ซึ่งกลไกการเกิดโรคจากราเนี้ยมี 2 แบบ แบบแรกคือ สูดดมเข้าปอด อย่างหนึ่งก็เข้าไปที่ปอด หรืออยู่ในกระแสเลือด เพราะชอบอยู่ในกระแสเลือดมากเพราะเป็นอาหารชั้นดีเลย อีกแบบหนึ่งก็คือกินเข้าไป พวกนี้ก็จะเข้าไปอยู่ในกระเพาะ คนไข้บางคนก็จะมาแบบกระเพาะทะลุได้เลย หรือมีบางส่วนดูดซึมเข้ากระแสเลือดได้เหมือนกัน พวกนี้เป็นโรคที่วินิจฉัยค่อนข้างยาก และต้องได้รับยาที่มันจำเพราะ เพราะฉะนั้นอัตราการตายจะสูงมาก เหมือนที่เคยได้ยิน ติดเชื้อราในกระแสเลือด พวกนี้ดูแลยาก
และที่ออกมาพูดเพราะว่ามันมีคนไปทำกินตาม บอกเลยว่าไม่แนะนำ เพราะว่า การกินโปรไบโอติกไม่ชัดเจน ไม่มีที่ไหนบอกกินพวกนี้เยอะๆแล้วจะได้โพรไบโอติกส์ สองก็มีโอกาสเกิดโทษได้ในคนไข้ที่ระบบภูมิกันไม่ดี และก็ฝากไว้เท่านี้”
ขอบคุณข้อมูล-ภาพ ติ๊กต็อก @aertha33
