เมื่อวันที่ 27 พ.ย. ร.ต.อ.คมกฤช สมจิตร รอง สว.สอบสวน สภ.ขลุง ได้รับแจ้งเหตุสองแม่ลูกฆ่าตัวตายภายในบ้านพัก ต.บ่อ อ.ขลุง จ.จันทบุรี จึงพร้อมด้วยตำรวจสืบสวน และอาสากู้ชีพขลุงมูลนิธิ ร่วมเดินทางไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบหญิงสาว อายุ 38 ปี ผู้เป็นแม่ นอนใช้มือข้างขวากอดร่างไร้วิญญาณของลูกสาววัย 7 ขวบ ในสภาพนอนหงายน้ำลายฟูมปาก เป็นที่สลดใจแก่เจ้าหน้าที่ที่อยู่ในเหตุการณ์

จากการตรวจสอบภายในห้อง ไม่พบร่องรอยการต่อสู้ โดยข้างศพมีแก้วน้ำใบใหญ่ ด้านในมีน้ำพร้อมคราบคล้ายยาสีขาว คาดเป็นยาที่ใช้ดื่มเพื่อฆ่าตัวตาย ตลอดจนแผ่นกระดาษที่เขียนด้วยดินสอ ซึ่งเป็นลายมือของผู้เป็นแม่ คาดว่าเป็นจดหมายสั่งลา โดยมีใจความว่า “สุดท้ายก็ไม่มีใครเข้าใจ อดข้าวมา 3 วัน ไม่มีตังค์กินข้าว ก็ไม่มีใครเข้าใจ มีแต่คนใจดำ ปล่อยให้ลูกกะหลานอดข้าว ไม่เคยถามว่ามีตังค์ไหม ยายอยู่ ยายคงไม่ปล่อยให้อดข้าว เราจึงตัดสินใจที่จะไม่อยู่ และจะไม่ทำอะไรเพื่อเป็นการรบกวนคนอื่น”

“หนี้สินที่หนูมีก็ขอให้จบไปกับชีวิตหนู ขอโทษที่ทำตัวไม่ดี ไม่น่ารัก ขออโหสิกรรมให้ทุกคน ขอโทษที่ไม่ได้ดูแล เพราะหนูไม่มีเงิน ลูกหนูกินข้าวกับน้ำปลาทุกวัน ไม่เคยมีใครรู้ เตาแก๊สกับถังแก๊สข้างนอกอยู่ที่ร้าน ไปเอามาเองนะ ไม่มีสมบัติอะไร มีแค่นี้แหละ”

สอบสวนพ่อของผู้เสียชีวิต อายุ 72 ปี ให้การว่า ลูกสาวมีอาชีพขายเครื่องดื่มในตลาดนัด เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว เนื่องจากได้เลิกรากับสามีตั้งแต่ลูกยังเล็ก ก่อนเสียชีวิตลูกสาวอยู่บ้านกับหลาน ส่วนตนออกไปทำงานตอนแต่เช้าตรู่วันที่ 26 พ.ย. ก่อนที่จะกลับมาบ้านในช่วงเย็น ได้ตะโกนเรียกลูกสาวกับหลานสาวก็ไม่มีใครตอบ ตนจึงเข้าไปในห้องครัว เพื่อเตรียมข้าวปลาอาหาร ก่อนเรียกลูกสาวกับหลานสาวมาทานอาหาร จากนั้นก็ยังไม่มีเสียงตอบออกมา จึงตัดสินใจเดินเข้าไปดูในห้อง ก็พบทั้งคู่นอนตัวแข็งเสียชีวิตแล้ว จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบดังกล่าว

ส่วนสาเหตุน่าจะเกิดจากภาระหนี้สินที่ลูกสาวไปกู้ยืมมากว่า 50,000 บาท เมื่อสามวันที่ผ่านมา มีเจ้าหนี้มาตามหาถึงบ้าน จนลูกสาวเกิดความเครียด ตัดสินใจฆ่าตัวตายพร้อมหลานสาวดังกล่าว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการบันทึกภาพ พร้อมทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุบันทึกไว้เป็นหลักฐาน ก่อนประสานกู้ชีพขลุงมูลนิธิ นำร่างผู้เสียชีวิตส่งโรงพยาบาลขลุง เพื่อให้แพทย์ทำการตรวจสอบสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัด พร้อมกันนี้ จะได้สอบปากคำบุคคลใกล้ชิดในการสรุปสาเหตุและข้อเท็จจริงต่อไป