เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. ที่บ้านคลองยางหมู่ที่ 11 ต.เขาไม้แก้ว อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี อบต.เขาไม้แก้ว และ อบต.วังท่าช้าง ร่วมกับเจ้าหน้าที่อนุรักษ์สัตว์ป่าและพันธุ์พืชอ่างฤาไน จ.ฉะเชิงเทรา ร่วมกันผลักดันฝูงช้างป่าที่อพยพมาหากินในป่าอ้อยของเกษตรกร โดยเจ้าหน้าที่ได้แบ่งกำลังเป็น 3 ชุด เดินเท้าและใช้โดรนจับความร้อนบินสำรวจเพื่อค้นหาตำแหน่งช้างป่า ฝูงช้างป่า 100 กว่าตัว หากินอยู่ในป่าอ้อยของชาวบ้าน ขณะที่เจ้าหน้าที่จุดประทัดผลักดันเพื่อให้ช้างป่าออกจากพื้นที่ ฝูงช้างป่าได้แบ่งเป็น 3 กลุ่ม และมีช้างเพศผู้ตกมัน 2 ตัว หากินอยู่ท้ายฝูง ก่อนจะย้อนกลับมาที่จุดเดิม เจ้าหน้าที่พยายามผลักดันออกจากพื้นที่ แต่ไม่เป็นผลสำเร็จ

ป้าสายรุ้ง สุทธิโต อายุ 47 ปี ชาวบ้านบ้านคลองยาง กล่าวว่า ได้ยินเสียงช้างร้องอยู่หลังบ้านหลายวันแล้ว ด้วยความกลัวจึงใช้เชือกขึงบริเวณหน้าบ้านซึ่งติดกับถนนที่เป็นทางผ่านของช้างป่า ที่เคยผ่านหน้าบ้านเมื่อ 2 ปีติดต่อกัน กลัวช้างมาก เพราะอยู่บ้านคนเดียว นอนตี 2 ทุกคืน

ด้านนายอุเทน ฉายาพัด เจ้าหน้าที่ ปภ.อบต.เขาไม้แก้ว กล่าวว่า นายประยูร สมโภช นายก อบต.เขาไม้แก้ว สั่งให้ออกมาเฝ้าระวังและผลักดันช้างป่าที่มาหากินอยู่ในพื้นที่ ซึ่งได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีช้างป่ามาหากินอยู่ในป่าอ้อยมากกว่า 100 ตัว ทำให้พืชผลการเกษตรของชาวบ้านได้รับความเสียหาย จึงจัดเจ้าหน้าที่ร่วมกับกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ร่วมกับเจ้าหน้าที่อนุรักษ์ฯ และชุดผลักดัน อบต.วังท่าช้าง ร่วมกันผลักดันช้างป่าออกจากพื้นที่ แต่ก็ไม่สามารถผลักดันช้างป่าออกจากพื้นที่ได้ เนื่องจากช้างแตกฝูงแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มย่อย และมีช้างตัวใหญ่คุมหลังอยู่ 2 ตัว ฝูงช้างป่าออกจากป่าอ้อยกระจายไปอยู่ในป่ายูคาลิปตัส เจ้าหน้าที่จึงยุติการผลักดัน เนื่องจากทราบว่าฝูงช้างป่าอีก 30 ตัว เข้ามาหาฝูงใหญ่ จึงยุติการค้นหา