จากกรณีชีวิตของ “ดร.เค็ง” ที่ชีวิตพลิกผัน ถูกมหาวิทยาลัยต้นสังกัดบีบให้ต้องลาออก เพียงเพราะป่วยจิตเวช จนเธอกลายเป็นผู้ป่วยโดยสมบูรณ์ ไม่รู้ตัวเอง แต่ในปัจจุบันได้กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ พร้อมด้วยการถูกฟ้องร้องถึง 10 ล้านบาทเพื่อชดใช้ทุน ป.เอก จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง ตามที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น
-เปิดเส้นทางชีวิต ‘ดร.เค็ง’ ป่วยจิตเวช ถูกมหา’ลัยฟ้อง 10 ล้าน ล้มละลาย-เร่ร่อน

ล่าสุดเมื่อวันที่ 4 ธ.ค. สมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด ได้ออกมาอัปเดตถึงเรื่องราวล่าสุดของ “ดร.เค็ง” โดยระบุว่า กรณี “ดร เค็ง #2 (เพิ่มเติม) รูปภาพและเรื่องราวที่ผมนำมาเสนอก่อนหน้านี้ทั้งหมดได้รับความเห็นชอบจาก ดร.เค็ง โดยผมเป็นผู้เขียน เรียบเรียงโดยลำพัง และผมเห็นว่าไม่จำเป็นต้องเบลอภาพ ในมุมมองของผมยิ่งทำให้ลดทอนเจ้าตัว”

เค็งมีอาการเครียดจากการปรับตัวเข้าสู่สังคมในอังกฤษโดยเริ่มพบจิตแพทย์ตั้งแต่ปี 51 อยู่หลายครั้ง และอาการหนักยิ่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในช่วง พ.ค. 53 เนื่องจากมีสถานการณ์ทางการเมืองในไทย พี่สาวคนโตของเธออยู่ในเหตุการณ์เสื้อแดงวัดปทุมและนี่ทำให้เธอเป็นห่วงพี่สาวและติดตามการเมืองไทยอย่างเข้มข้น ไม่กี่เดือนต่อมาเธอเดินทางกลับมาเยี่ยมพี่สาวที่เมืองไทย

และเมื่อกลับไปเรียนต่อที่อังกฤษสุขภาพจิตของเธอก็เข้าสู่วิกฤติในปี 54 เธอมีอาการหูแว่วและจิตเวชเต็มรูปแบบ จนต้องมี จนท. บุกเข้าไปที่ห้องพักเพื่อนำตัวเธอไปรักษาตัวในโรงพยาบาลจิตเวชเกือบเดือน (มีเอกสารเป็นภาษาอังกฤษรับรองอาการป่วยจาก รพ.จิตเวช) จนสามารถรักษาและกลับมาเรียนหนังสือจนจบ ป.เอก ในที่สุด

หลังสำเร็จการศึกษาเค็งได้กลับมาทำงานเป็น อ.คณะเศรษฐศาสตร์ ม.แม่ฟ้าหลวง ต่อมาอาการเริ่มกำเริบอีกครั้ง เธอเริ่มเขียน email ถึงผู้บริหารมหาวิทยาลัย วิพากษ์วิจารณ์การบริหารงาน และวิพากษ์วิจารณ์การเมืองเนื่องจากอาการหูแว่ว จดหมายถูกเขียนและส่งออกไปนับร้อยฉบับ จนวันหนึ่งเธอวิตกกังวลว่าตนเองจะเป็นอันตรายและอาจเป็นภัยต่อคนอื่น เธอจึงแจ้งต่อผู้บริหารว่าจะขอลาออก แต่ช่วยตรวจสอบเงื่อนไขการลาออกด้วยว่าจะสามารถยกเว้นการใช้ทุนได้หรือไม่ ซึ่งการเขียนใบลาออกไม่ได้เกี่ยวข้องกับผู้บริหารของมหาวิทยาลัยอย่างที่ผมเข้าใจในทีแรกแต่ประการใด ผมขอกราบอภัยในความผิดพลาดด้านข้อเท็จจริงนี้

ต่อมาทางมหาวิทยาลัยได้ขอให้เค็งเซ็นใบลาออก แต่เค็งไม่ได้เซ็น เนื่องจากยังไม่ทราบเงื่อนไขเรื่องการชดใช้ทุน แต่สุดท้ายมหาวิทยาลัยก็ได้ทำหนังสือแจ้งสิ้นสภาพการทำงาน ต่อจากนั้นเค็งก็อยู่ในสภาพป่วยจิตเวชเต็มตัว ใช้ชีวิตลำพังที่เชียงราย (เธอไม่มีญาติที่นี่)

หลังจากเรื่องราวของเค็งปรากฏขึ้นในสื่อต่างๆ ตลอดทั้งวันนี้ ช่อง 3 ได้มาสัมภาษณ์และมีสื่ออีกหลายแห่งติดต่อไปออกรายการ กรรมาธิการ อว. ก็เสนอให้เค็งและผู้บริหาร ม.แม่ฟ้าหลวงเข้าชี้แจงที่สภาในวันที่ 14 ธ.ค. นี้
ผมได้คุย Twitter กับ คุณสุวิทย์ สรรวิทศิริ ผช.ผอ.สถาบันวิจัยนโยบายเศรษฐกิจการคลัง ซึ่งเป็นหัวหน้างานของเค็งในปัจจุบัน หมายความว่าที่ทำงานใหม่ของเค็งรับทราบเรื่องนี้แล้ว

ปัญหาจะอยู่ตรงที่ผลกระทบจากเรื่องราวในอดีตของเค็งที่สื่อและสังคมให้ความสำคัญจะกระทบต่อการทำงานแห่งใหม่ ผมภาวนาว่าขอให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดีโดยที่เธอยังรักษางานใหม่ไว้ได้และยังมีเวลาในการต่อสู้กับปมชีวิตที่ผ่านมาในช่วงเวลานี้

“ขอบคุณมิตรสหายหลายท่านที่หลังไมค์มาเสนอความช่วยเหลือหลากหลายรูปแบบ โดยเฉพาะคุณสุวิทย์ สรรวิทศิริหัวหน้างานของเค็งที่เมตตารับเธอเข้าทำงานและเข้าใจข้อจำกัดของเธอ และขออภัยต่อความเข้าใจผิดเรื่องการลาออกในกรณีผู้บริหารมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ผมยินดีรับผิดชอบต่อสิ่งที่ผิดพลาดไปในทุกรูปแบบ และขอเรียกร้องให้ผู้บริหาร ม.แม่ฟ้าหลวงคนใหม่ และกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ได้กรุณาเปิดพื้นที่การพูดคุยและร่วมกันหาทางออก”..

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก @สมบัติ บุญงามอนงค์, @กรรมกรข่าว คุยนอกจอ