เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 4 ธ.ค. ขณะที่ ร.ต.อ.ถิรโยธิน ทรัพย์สิน รอง สวป.สภ.เมืองอุดรธานี นำกำลังออกตรวจในเขตรับผิดชอบ ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุร่มโพธิ์ทอง มีคนพยายามฆ่าตัวตาย ที่ห้อง B25 หอพักแห่งหนึ่ง ซอยอุดรดุษฎี 4 เขตเทศบาลนครอุดรธานี จึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบพบเป็นหอพัก 3 ชั้น โดยห้องที่เกิดเหตุอยู่บริเวณชั้น 2 พบ น.ส.มิลค์ (นามสมมุติ) อายุ 25 ปี ชาวอุดรธานี อยู่ในอาการตื่นตระหนก พร้อมบอกว่า นายเบนซ์ (นามสมมุติ) อายุ 31 ปี สามีพักอยู่คนเดียว ได้ส่งข้อความทางไลน์มาหาขู่ว่าจะฆ่าตัวตาย ตนมาที่ห้องพักแต่ไม่สามารถเปิดประตูห้องได้ เรียกก็ไม่ตอบจึงแจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบ

ต่อมาตำรวจได้เรียกนายเบนซ์ ซึ่งขังตัวอยู่ภายในห้องนานประมาณ 20 นาทีก็ไม่มีเสียงตอบ และไม่ยอมเปิดประตู ตำรวจจึงขอให้เจ้าของหอพักเอากุญแจมาเปิดแต่พบว่าลูกบิดกุญแจเสีย จึงประสานอาสากู้ภัยมูลนิธิส่งเสริมธรรมแห่งอุดรธานีนำชะแลงเหล็กมางัดประตู เมื่อเปิดประตูดันเข้าไปในห้อง พบมีโต๊ะวางทีวีดันปิดประตูเอาไว้ ตำรวจจึงดันตู้ออก เมื่อตำรวจเข้าไปในห้อง ก็ได้กลิ่นดอกกัญชาแห้ง และพบนายเบนซ์ แอบอยู่ระเบียงหลังห้อง ตำรวจจึงสอบถามว่า ทะเลาะกับภรรยาเรื่องอะไรกันซึ่งนายเบนซ์ตอบว่า ทะเลาะกันเรื่องภรรยาไม่ไปงานแต่งน้องสาวที่กรุงเทพฯ ตำรวจจึงบอกว่าอย่าทำอย่างนี้อีก เพราะว่าสร้างความตกใจให้ลูกเมียและคนอื่นซึ่งนายเบนซ์ก็รับปากว่าจะไม่ทำแบบนี้อีก

น.ส.มิลค์ เล่าว่า ตนและนายเบนซ์ เป็นสามีภรรยากัน มีลูกด้วยกัน 1 คน อายุ 2 ขวบ 9 เดือน ระยะหลังตนและนายเบนซ์ทัศนคติไม่ตรงกัน ไปด้วยกันไม่ได้ ตนจึงขอเอาลูกแยกไปอยู่กับพ่อแม่ ส่วนนายเบนซ์อยู่ห้องพักคนเดียว ตนจะพาลูกมาหาเป็นครั้งคราว เพราะเป็นห่วงนายเบนซ์ ระยะหลังมีอาการซึมเศร้า ก่อนเกิดเหตุนายเบนซ์ ได้ชวนตนไปร่วมงานแต่งงานของน้องสาวที่กรุงเทพฯ ครั้งแรกตนตกลงจะไปร่วมงาน ภายหลังตนเปลี่ยนใจไม่ไปเพราะเหนื่อย ทำให้นายเบนซ์ไม่พอใจส่งข้อความมาขู่ตนว่าจะฆ่าตัวตาย

“ก่อนหน้านี้นายเบนซ์ก็เคยขู่แบบนี้หลายครั้งซึ่งทุกครั้งตนจะเปิดประตูและดันเข้าไป แต่ครั้งนี้ตนดันประตูไม่ไหวจึงต้องแจ้งตำรวจให้มาช่วย นายเบนซ์ชอบอยู่คนเดียวลักษณะคล้ายกับป่วยซึมเศร้าไม่อยากพบเจอใครแม้แต่เพื่อน จะคุยเฉพาะกับตนเพียงคนเดียว สาเหตุที่แยกกันอยู่เพราะทัศนคติไม่ตรงกันอยู่แล้วไม่ได้ช่วยอะไรเลย จึงแยกกันอยู่ได้ประมาณเกือบ 1 ปีและจะพาลูกมาพบพ่อเป็นครั้งคราว นอกจากจะขู่ฆ่าตัวตายแล้ว ก็เคยขู่ฆ่าตนด้วย ตนไม่ขอตายด้วย แต่อยากจะบอกว่า ตนหวังดีกับเขามาก” น.ส.มิลค์ กล่าว

ขณะที่เจ้าของหอพัก เล่าว่า สามีภรรยาคู่นี้มาเช่าห้องพักตั้งแต่เปิดหอพักเดือนมีนาคม 2566 ระยะแรกเคยมีคนเช่าหอพักมาแจ้งว่า มีเสียงทะเลาะกันจากห้องนี้แต่หลังจากนั้นก็ไม่มีคนเช่าแจ้งมาอีก และไม่เคยรู้ว่าสามีภรรยาแยกกันอยู่ แต่ที่เห็นก็คืออยู่ห้องด้วยกัน ส่วนลักษณะนิสัยผู้ชายเป็นคนสุภาพ นิสัยดีเห็นหน้าก็จะยิ้มและก้มศีรษะให้เป็นการทักทาย ไม่มีอาการบ่งบอกว่าป่วยซึมเศร้าแต่ลึกๆตนไม่รู้ว่าเป็นอะไร พอภรรยามาแจ้งว่า สามีขู่ฆ่าตัวตายในฐานะเจ้าของหอพักก็อยากให้ปลอดภัย ไม่อยากให้เป็นอะไรเพราะหอพักเพิ่งเปิดได้ไม่ถึงปี

ส่วน ด.ต.อัครเดช ฝอดสูงเนิน ผบ.หมู่ ป.สภ.เมืองอุดรธานี เล่าว่าเมื่อพังประตูเข้าไป ก็พบนายเบนซ์นั่งหลบอยู่ที่ระเบียงหลังห้องเมื่อพบตำรวจก็มีอาการตกใจ แต่พูดคุยกันรู้เรื่องจึงให้ปรับความเข้าใจกันกับภรรยา อยากฝากเตือนคู่รัก สามีภรรยา หากมีปัญหาอะไร ให้ค่อยๆ คุยกันทั้งสองฝ่ายให้สนใจกัน อย่าประชดกัน จะได้ไม่เกิดเหตุเศร้าสลด.