เวลา 17.30 น.วันที่ 6 ธ.ค.นางธัญญะรัตน์ ศุภโชคธนบูรณ์ อายุ 44 ปี ชาวบ้านหมู่ 2 ต.ลาดบัวขาว อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ได้ขี่จยย.พ่วงข้าง (ซาเล้ง) บรรทุกแพะเพศเมียที่ตายแล้ว เข้ามาจอดที่หน้า สภ.บ้านโป่ง หลังจาก จอดรถแล้วได้ก้าวขึ้นไปบนซาเล้ง นั่งลงใกล้ๆกับแพะที่ตายแล้วใช้มือรูปหัวของมัน โดยมีน้ำตาไหลออกมาด้วยความรักและสงสารแพะ ซึ่งสภาพของแพะที่ตายนั้นมีบาดแผลเหวอะหวะหลายแห่ง เพราะถูกสุนัขรุมกัด 

หลังจากนั้นนางธัญญะรัตน์ ได้พยายามนำแพะ ขึ้นไปบนโรงพัก แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขอร้องให้นำซากแพะที่ตายไว้บนรถซาเล้ง แล้วให้ขึ้นไปบนโรงพัก แจ้งความกับ พ.ต.ต.ธีรพงศ์ สะอาด สว.(สอบสวน) สภ.บ้านโป่ง พร้อมเล่าว่าแพะที่ตนเลี้ยงไว้ข้างทุ่งนาหลังบ้าน ได้ถูกฝูงสุนัขของผู้ใหญ่บ้านท่านหนึ่ง ที่เลี้ยงไว้ ออกมารุมกัดแพะจนตาย โดยเจ้าของสุนัข นั้นไม่ยอมรับผิดชอบ ตนจึงนำแพะขึ้นรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง มาแจ้งความกับตำรวจ

สาวเจ้าของแพะ เล่าต่อไปว่า เวลาประมาณบ่าย 2 โมงกว่า ตนได้นำแพะที่เลี้ยงหลายสิบตัว ไปปล่อยเลี้ยงกลางทุ่งนา ต่อมาแพะได้เห็นฝูงหมาวิ่งมา แพะกลัวก็พาวิ่งหนีเข้าบ้านได้ แต่เจ้าตัวที่ตายวิ่งหนีไม่ทัน ก็เลยถูกหมารุมกัดจนตาย หมาจำนวน 5 ตัวที่รุมกัด ส่วนหมาที่มารุมกัดนั้น เจ้าของเป็นของผู้ใหญ่บ้านคนหนึ่ง วันนี้เลยต้องเอาซากแพะที่ตายมาแจ้งความที่ สภ.บ้านโป่ง เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไกล่เกลี่ย แต่ทางเจ้าของหมา บอกให้มาแจ้งความได้เลย ที่ตนมาแจ้งความนั้นเพื่อต้องการให้เขาออกมารับผิดชอบ การที่สุนัขของเขาออกมาสร้างความเสียหาย ไม่ใช่มาบอกว่าแพะเราวิ่งไปให้หมากัดมันไม่ใช่ค่ะ ส่วนซากแพะนั้นตนก็จะนำกลับไปฝัง ที่เราเอาซากแพะมาก็เพื่อให้ดูว่าแพะเราตายจริง ซึ่งทางบ้านตนมีอาชีพเลี้ยงแพะ มีแพะประมาณ 40 กว่าตัว

ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังจากรับคำร้องทุกข์แล้ว จะได้ดำเนินการต่อไป โดยจะเชิญตัวเจ้าของสุนัขและเจ้าของแพะมาไกล่เกลี่ย อีกครั้ง