เดือดสุดนาทีนี้หนีไม่พ้น เรื่องราวของ สมรักษ์ คำสิงห์ ที่โดนเยาวชนอายุ 17 ปี แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่าถูกอดีตนักมวยเหรียญโอลิมปิกพาเข้าโรงแรมแล้วกระทำอนาจาร หลังรู้จักกันในผับแห่งหนึ่งใน จ.ขอนแก่น ก่อนที่ สมรักษ์ จะตอบโต้ ยืนยันไม่ได้ข่มขืน และไม่รู้ว่าเด็กคนดังกล่าวอายุ 17 ตอนนี้ได้แต่งตั้งให้ทนายความเป็นผู้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายแล้ว
เรื่องนี้กลายเป็นประเด็นร้อนแรงข้ามคืน เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ซึ่งชาวเน็ตต่างเทความเห็นใจไปที่ลูก ๆ อย่าง เบสท์-รักษ์วนีย์ และ โบ๊ท-ภูวรักษ์ รวมทั้งอดีตภรรยา อ้อย-เสาวนีย์ ที่ตอนนี้หย่ากันแล้ว โดยเฉพาะ เบสท์ ที่เป็นคนหาเงินเลี้ยงครอบครัว และเป็นกำลังหลักในการปลดหนี้ให้ สมรักษ์
อีกทั้งเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ช็อกใจแฟน ๆ ไม่น้อย เพราะที่ผ่านมาทุกคนมักเห็นภาพความอบอุ่นของบ้านนี้ ที่จับมือกันผ่านทุกมรสุม รวมทั้งความรักที่ สมรักษ์ ที่มีต่อครอบครัว โดยเฉพาะกับลูกสาวที่เขามักออกมาปกป้องทุกดราม่า วันนี้ “บันเทิงเดลินิวส์” เลยขอพาแฟน ๆ ไปย้อนดู 5 โมเมนต์สำคัญในครอบครัว “คำสิงห์” ที่ถ่ายทอดให้เห็นถึงความรักและความห่วงใยที่ เบสท์ และ พ่อบาส มีต่อกัน
ทำงานจนปลดหนี้ให้ครอบครัวได้สำเร็จ
หากพูดถึงนักแสดงที่หลายคนยอมรับในความเป็นนักสู้ และยังมีความกตัญญูสุด ๆ ต้องมีชื่อ เบสท์ อยู่อันดับต้น ๆ โดยเฉพาะเรื่องราวที่เธอสามารถปลดหนี้ให้ พ่อบาส ได้สำเร็จ หลังจากที่ครอบครัวอยู่ในสถานะ “ล้มละลาย” จากการทำธุรกิจ โดย เบสท์ นั้นค่อย ๆ ทยอยใช้หนี้ จนสามารถกู้ครอบครัวกลับมาได้ โดยมีรายได้มาจากการทำยูทูบช่อง “Kamsing Family Channel” ร่วมกับ โบ๊ท ภูวรักษ์ น้องชาย เป็นหลัก และตอนนี้เธอยังนั่งแท่น “เสาหลักครอบครัว” คอยดูแลทุกคนในบ้าน ปลดแอก พ่อบาส ให้กลับมายืนในสังคมได้อย่างน่าภูมิใจอีกครั้ง โดยเฉพาะเรื่องของการเลี้ยงดูลูกสาวจนเติบโตมาอย่างแข็งแกร่ง ไม่ยอมแพ้ และประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย
โดย เบสท์ เคยเปิดใจกับ “พีพีทีวี นิวมีเดีย” ว่า “การที่เกิดมาเป็นลูกพ่อ หนูดีใจ ไม่ได้รู้สึกเป็นเรื่องที่กดดัน เวลามีคนมาทักว่า ‘ลูกสมรักษ์’ ก็รู้สึกดี พอโตมาต้องสู้เพื่อที่บ้านก็ไม่เหนื่อยค่ะ หนูมองว่ามันเป็นธรรมชาติของมนุษย์ ถ้าเราหาเงินมาได้แล้วไม่เอาให้พ่อแม่ เราจะเอาให้ใคร อาจเก็บไว้กับตัวเอง แต่สุดท้ายก็ต้องช่วยเหลือพ่อแม่ถ้าพ่อแม่เดือดร้อน หนูว่ามันเป็นพื้นฐานของมนุษย์อยู่แล้ว ไม่ได้คิดว่าจะต้องเหนื่อยด้วย เพราะทุกอย่างเราก็ให้พ่อแม่อยู่แล้ว ไม่รู้จะเอาไปให้ใคร เราก็มีแค่พ่อแม่…” อีกทั้งเธอยังบอกว่าเรื่องหนี้ พ่อบาส ก็ไม่ได้เอาเงิน เบสท์ ขนาดนั้น จะขอเงินในเคสที่ด่วนจริงๆ และ พ่อบาส ก็จะพยายามที่จะหาใช้เอง
“เบสท์” สายเปย์ครอบครัว
สำหรับ เบสท์ ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้หญิงที่สวย และรวยมาก เพราะหาเงินเก่งสุด ๆ แต่ยิ่งไปกว่านั้นเธอ เป็น “สายเปย์” ให้กับครอบครัว โดยเมื่อปี 63 เบสท์ ได้ทำคลิปเซอร์ไพร้ส์พ่อและแม่ ด้วยการมอบเงินสดให้กับ พ่อสมรักษ์ 1 ล้านบาท และให้ แม่อ้อย-เสาวนีย์ 1 ล้านบาท โดยเงินก้อนนี้ สมรักษ์ ตั้งใจนำไปชื้อเป็นสลากออมสิน เก็บไว้ให้ลูกทั้งสองคนคืน นอกจากนี้ เบสท์ ยังเคยหอบเงินสด ไปถอยรถป้ายแดงให้กับคุณพ่อและคุณแม่ รวมทั้งยังทำงานหาเงินอย่างหนัก จนตอนนี้สามารถซื้อบ้าน 2 หลัง รวมราคา 30 ล้านบาทให้พ่อกับแม่ได้แล้วในวัยเพียง 21 ปี!!!
ทั้งนี้ เบสท์ เคยเผยกับ “บันเทิงเดลินิวส์” กรณีที่หลายคนชื่นชมที่เธอมักเปย์ “คุณพ่อคุณแม่” เพื่อทดแทนบุญคุณ ด้วยทัศนคติที่น่าสนใจว่า “ถ้าหนูไม่ได้หาเงินได้เยอะ ก็ตอบแทนเขาได้โดยที่ไม่ต้องทำตัวเหลวไหล หรือทำให้เขารู้สึกเสียใจ คือตั้งแต่เด็กหนูก็ไม่ได้หาเงินได้ แต่พ่อหนูเป็นซีเรียสมากกับการที่ลูกไปเที่ยวกลางคืน ลูกสูบบุหรี่ กินเหล้าติดยา หนูก็ไม่ทำ เพราะถือว่าเป็นการมอบความสุขให้พ่อแม่ ทำให้พ่อแม่ มันก็ได้เหมือนกัน ไม่จำเป็นต้องซื้อบ้าน ซื้อรถ ให้ตังค์ก็ได้ เรารู้ว่าพ่อแม่ไม่มีความสุขในการทำอันนี้ เราก็ไม่ต้องทำค่ะ พอมา ณ วันนี้ เราไม่ทำในสิ่งที่พ่อแม่ไม่ชอบ เราก็ได้เรียนรู้ว่า สิ่งที่เขาห้ามในวันนี้ ก็ดีในวันนี้ และเราหาเงินได้ เราก็ให้เขา ตามที่เราหาได้ ก็แค่นั้นเอง…”
“พ่อบาส” รับเป็นบุญที่ได้ “เบสท์” เป็นลูก
ต้องบอกว่า พ่อบาส เป็นอีกลมใต้ปีกของ เบสท์ เช่นกัน เพราะเป็นคนริเริ่มให้เธอมาทำยูทูบ จนสามารถหารายได้หลักล้าน อีกทั้งยังผลักดันลูกสาวเข้าวงการและต้องเป็นนางเอกเท่านั้น ซึ่ง พ่อบาส เคยเปิดใจหลังลูกสาว ขึ้นแท่นนางเอกในภาพยนตร์ “คุณชายใหญ่” ครั้งแรกว่า “ลูกสาวผมต้องบทนางเอกเท่านั้น แล้ววันนี้เป็นไง ผมก็ไม่ได้โม้แล้ว คือลูกผมต้องได้เป็นนางเอกแล้วก็ได้เป็นแล้ว ถ้าไม่ได้เป็น ผมก็จะสร้างหนังเอง เพื่อให้ลูกผมเป็นนางเอก ส่วนที่ถึงคิดอยากผลักดันลูกสาวเข้าวงการ คือผมดูรูปร่างหน้าตาของเขา ก็ไม่ธรรมดา ธรรมชาติล้วนๆ คิ้วเป็นคิ้ว จมูกเป็นจมูกได้แม่เขามาเลย…” นอกจากนี้ สมรักษ์ ยังเล่าถึงความภูมิใจในตัว เบสท์ ว่า “เซอร์ไพร้ส์ใหญ่ที่สุดก็คือการมีลูกดีครับ ไม่ได้โม้ คุยเรื่องลูกสู้ได้ทุกคน แต่ถามว่าเซอร์ไพร้ส์ไหนใหญ่ที่สุด จริงๆ บ้านเขาก็เป็นคนซื้อนะ เขาซัพพอร์ตผมและครอบครัวมาตลอด ถ้าไม่ได้ลูกแย่เลย เป็นบุญของผมมากๆ เวลามีคนชื่นชมลูก ดีใจครับ เดินไปไหนมาไหนก็มีแต่คนพูดถึงลูก ซึ่งสิ่งเหล่านี้มันหาซื้อไม่ได้ คนเป็นพ่อเป็นแม่พอได้ยินมันก็มีความสุขโดยอัตโนมัติ ผมเชื่อว่าอย่างน้อย ลูกของผมก็น่าจะเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเยาวชนได้นำไปเป็นแบบอย่างครับ”
“พ่อบาส” กางปีกปกป้อง ท้าต่อยพิธีกรดัง หลังเปิดประเด็นลูกสาวเป็นคู่รักลวงโลก!
สมรักษ์ ขึ้นชื่อว่าเป็นคนนึงที่หวงและห่วงลูกสาวมาก หากใครทำให้ เบสท์ เสียหาย เขาก็พร้อมพุ่งชนเช่นกัน อย่างเมื่อปี 64 ที่มีพิธีกรดัง ออกมาบอกว่า เบสท์ และ ตงตง-กฤษกร กนกธร แฟนหนุ่มในตอนนั้น เป็น “คู่รักลวงโลก” งานนี้ สมรักษ์ ไม่รอช้า อัดคลิปยาวกว่า 5 นาที เพื่อโพสต์ปกป้องลูกสาวและคนรักของเธอ มองว่าพิธีกรพูดจาใส่ร้าย ยืนยัน เบสท์ และ ตงตง เป็นรักที่บริสุทธิ์ (ในตอนนั้น) ก่อนทิ้งท้ายสไตล์นักมวยว่า “คุณมาว่าเขาหิวแสง ช่องคุณนี่แหละหิวเรตติ้ง (หัวเราะ) ไปโจมตีเขาเพื่อเรียกเรตติ้งของตัวเอง มันน่าต่อยปากแตกจริงๆ ไม่ได้โม้…”
“สมรักษ์” ฉะแหลก “ตงตง” อดีตแฟนหนุ่มของ “เบสท์” หลังเลิกรา!
ปิดท้ายเรื่องฮือฮาที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อ เดือน เม.ย. ที่ผ่านมา เมื่อ เบสท์ และ ตงตง มีข่าวรักร้าว และ พ่อบาส คนนี้ก็ออกโรงปกป้องลูกสาวคนสวยอีกครั้ง แถมคราวนี้มาแบบเผ็ดร้อน ฉะอดีตว่าที่ลูกเขยที่เคยเลิฟแบบเละเป็นโจ๊ก ทั้งบอกว่า ตงตง ไม่แมน มาอยู่บ้านผู้หญิงก็ไม่เคยช่วยค่าน้ำค่าไฟ ง้างมือจะตบลูกสาว ไปจนถึงแฉพฤติกรรมคล้ายมีหญิงอื่น อีกทั้งยังให้ ตงตง เก็บของออกจากบ้าน จนกลายเป็นดราม่าสุดเดือด แถมรถทัวร์ยังแล่นมาลงหน้าบ้านทั้งสองฝ่าย งานนี้ คุณแม่อ้อย เผยเหตุผลที่ สมรักษ์ ออกมาพูดนั้น ก็เพราะว่า “พ่อก็คือพ่อ พ่อเขารักลูกเขาก็พูดออกมา”
และนี่คือเรื่องราวความรักของ สมรักษ์ และ ลูกสาว เบสท์ คำสิงห์
