สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. ว่า สำนักงานคณะเสนาธิการทหารเกาหลีใต้ รายงานผลวิเคราะห์เบื้องต้น เกี่ยวกับขีปนาวุธที่เกาหลีเหนือยิงออกจากฐานแห่งหนึ่ง ในกรุงเปียงยาง เมื่อเวลา 08.24 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันจันทร์ (06.24 น. ตามเวลาในประเทศไทย) ว่าขีปนาวุธดังกล่าว เป็นขีปนาวุธข้ามทวีป (ไอซีบีเอ็ม) มีพิสัยทำการประมาณ 1,000 กิโลเมตร ก่อนตกลงในทะเลตะวันออก


อย่างไรก็ตาม กระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นวิเคราะห์ว่า ขีปนาวุธที่เกาหลีเหนือทดสอบครั้งนี้ มีพิสัยทำการสูงสุด 15,000 กิโลเมตร ครอบคลุมถึงแผ่นดินใหญ่ของสหรัฐ


ทั้งนี้ นับเป็นครั้งที่ 5 แล้วในปีนี้ ซึ่งเกาหลีเหนือยิงไอซีบีเอ็ม และเป็นสถิติการยิงขีปนาวุธนำวิถีระยะไกล มากที่สุดภายในปีเดียวของรัฐบาลเปียงยาง ซึ่งทดสอบไอซีบีเอ็ม “ฮวาซอง-15” และ “ฮวาซอง-17” เมื่อเดือน ก.พ. และ มี.ค. ที่ผ่านมา ตามด้วย “ฮวาซอง-18” เมื่อเดือน เม.ย. และเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา


ขณะเดียวกัน การยิงไอซีบีเอ็มของเกาหลีเหนือในครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังการยิงขีปนาวุธนำวิถีพิสัยใกล้ ออกจากฐานยิงแห่งหนึ่ง ในกรุงเปียงยาง เมื่อเวลา 22.38 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (20.38 น. ตามเวลาในประเทศไทย) ซึ่งขีปนาวุธเดินทางได้เป็นระยะทางไกลประมาณ 570 กิโลเมตร ก่อนตกลงในทะเลเหลือง


ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของรัฐบาลเปียงยางเกิดขึ้นไม่นาน หลังกลุ่มที่ปรึกษานิวเคลียร์ ซึ่งเป็นความร่วมมือไตรภาคีระหว่างสหรัฐ กับเกาหลีใต้ และญี่ปุ่น จัดการประชุมร่วมกันเป็นครั้งที่สองในปีนี้ โดยที่ประชุมเห็นพ้อง การกำหนดแนวทางปฏิบัติอย่างจริงจัง ในการวางแผนและดำเนินงานเกี่ยวกับแผนยุทธศาสตร์นิวเคลียร์ ซึ่งต้องมีการแบ่งปันร่วมกัน ภายในช่วงกลางปี 2567


ขณะเดียวกัน เนื้อหาจากแถลงการณ์ของกลุ่มที่ปรึกษานิวเคลียร์ระบุด้วยว่า หากเกาหลีเหนือเป็นฝ่ายเปิดฉากโจมตีด้วยนิวเคลียร์รูปแบบใดก็ตามต่อเกาหลีใต้ การตอบสนองจากพันธมิตรของรัฐบาลโซล “จะเป็นไปอย่างรวดเร็วและจริงจัง” ยิ่งไปกว่านั้น หากรัฐบาลเปียงยางเปิดฉากโจมตีสหรัฐ นั่นหมายถึง “จุดจบของตระกูลคิม” หมายถึงนายคิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดคนปัจจุบันของเกาหลีเหนือ


นอกจากนี้ การยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือครั้งนี้ ยังเกิดขึ้น “อย่างประจวบเหมาะ” กับการที่เรือดำน้ำขับเคลื่อนด้วยพลังงานนิวเคลียร์ “ยูเอสเอส มิสซูรี” จอดเทียบเท่าเมืองปูซาน ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเกาหลีใต้ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา .

เครดิตภาพ : AFP