เมื่อตอนต้นเดือนนี้ เดวิด โจนส์ วัย 51 ปี จากเมืองบริสตอล ประเทศอังกฤษ คือคุณพ่อผู้โชคร้าย เมื่อของขวัญวันคริสต์มาสหลายชิ้นที่เขาเตรียมไว้ให้ครอบครัว โดนขโมยไปจากช่องเก็บของท้ายรถ เขาคิดว่าคงจะไม่มีวันได้ของขวัญเหล่านั้นคืนมาอีกแล้ว 

โจนส์ ตัดสินใจซื้อของขวัญชุดใหม่เพื่อทดแทนของที่โดนขโมยไป แต่แล้วเพื่อนร่วมงานของเขาก็ติดต่อมา เพื่อแจ้งข่าวที่เขาเห็นจากประกาศออนไลน์ของสถานีตำรวจเอวอนแอนด์ซอมเมอร์เซ็ต ซึ่งมีภาพของขวัญหลายชิ้น โดยระบุว่าเป็นของขวัญที่ยึดมาได้จากคนร้ายและกำลังตามหาเจ้าของที่แท้จริง

โจนส์ รีบติดต่อไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที และเตรียมไปรับของขวัญคืนในวันเสาร์ที่ผ่านมา

โจนส์ ซื้อของขวัญวันคริสต์มาสเตรียมไว้ตั้งแต่วันที่ 12 ธ.ค. ที่ผ่านมา ระหว่างเดินทางกลับไปเยี่ยมครอบครัวทางตอนใต้ของเขตกลอสเตอเชอร์ เขากะว่าจะไปบ้านของคู่รักของเขาในวันรุ่งขึ้น จึงตัดสินใจทิ้งของไว้ในช่องเก็บของท้ายรถ ซึ่งต่อมาก็โดนขโมยไป 

ระหว่างที่โจนส์กำลังเริ่มซื้อของขวัญชุดใหม่นั่นเอง ที่เพื่อนร่วมงานของเขาเห็นประกาศของตำรวจบนเฟซบุ๊ก และสังเกตเห็นชื่อบนป้ายที่ติดไว้บนกล่องของขวัญ ว่าตรงกับชื่อของคนในครอบครัวของ โจนส์ 

เมื่อ โจนส์ เข้าไปดูรูป เขาก็จำลายมือของพี่สาวของเขาได้ทันที เขาจึงรีบติดต่อไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจและพี่สาวของเขา เพื่อยืนยันว่ามันคือของขวัญที่พวกเขาซื้อมาจริง ๆ 

ถุงของขวัญที่ โจนส์ เตรียมไว้ให้ครอบครัว

สำหรับของขวัญทั้งหมดที่ตำรวจยึดไว้เป็นของกลางในครั้งนี้ ได้มาจากรถยนต์คันหนึ่ง ซึ่งมีผู้แจ้งความไว้ว่าโดนขโมยไปจากย่านเรดฟิลด์ เมืองบริสตอล เมื่อประมาณวันที่ 10.25 น. ของวันที่ 13 ธ.ค. 2566

หลังจากได้รับแจ้งความราว 40 นาที เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ติดตามจนเจอรถคันดังกล่าว กำลังแล่นอยู่ในย่านสโตกส์ครอฟต์ของเมืองเดียวกัน จึงเรียกคนขับให้หยุดรถ

เจ้าหน้าที่พบชาย 1 คน และหญิง 1 คน ในรถยนต์คันดังกล่าว มีท่าทีพิรุธ จึงสันนิษฐานว่าทั้งสองเป็นคนขโมยรถคันนั้น ทั้งคู่ยังคงอยู่ระหว่างการสอบปากคำ โดยได้รับอนุญาตให้ประกันตัวได้ 

เดวิด โจนส์ และ โอลี ลูกชายคนเล็ก

โจนส์ ซึ่งมีลูก 2 คน ได้แก่ เจสส์ อายุ 15 ปี และ โอลี อายุ 11 ขวบ กล่าวว่า เขาไม่กล้าบอกลูก ๆ ถึงเรื่องของขวัญที่โดนขโมย จนกระทั่งรู้ว่ากำลังจะได้ของขวัญคืน เขาคิดว่ามันเป็นเรื่องเหลือเชื่อมาก และขอขอบคุณทุกคนที่ช่วยเหลือในการส่งคืนของขวัญในครั้งนี้

ที่มา : news.yahoo.com

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES