เมื่อวันที่ 29 ม.ค. ว่าที่ร้อยตรีธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยถึงการเปิดรับสมัครสอบคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย กรณีที่มีความจำเป็นหรือมีเหตุพิเศษ สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ประจำปี 2567 ว่า ขณะนี้ สพฐ. อยู่ระหว่างการเตรียมแผนงานเรื่องดังกล่าว ซึ่งปฏิทินการรับสมัครครูผู้ช่วยกรณีพิเศษได้ดำเนินการวางกรอบวันเวลาไว้เสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่ที่ยังรอการประกาศปฏิทินการรับสมัครนั้น เนื่องจากหลักเกณฑ์การสอบบรรจุและแต่งตั้งเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย กรณีพิเศษ เราได้ปรับหลักเกณฑ์ใหม่ โดยให้ส่วนกลางเป็นผู้ดำเนินการออกข้อสอบทั้งภาค ก ความรู้และความสามารถทั่วไป ภาค ข มาตรฐานความรู้และประสบการณ์วิชาชีพ และภาค ค ที่ได้ปรับให้มีการกำหนดตัวชี้วัดใหม่ โดยในส่วนของข้อสอบภาค ค ที่ได้กำหนดตัวชี้วัดใหม่เราได้ส่งเรื่องไปให้สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) พิจารณาให้ความเห็นชอบแล้ว ซึ่งต้องรอให้สำนักงาน ก.ค.ศ. เห็นชอบเกณฑ์สอบภาค ค ที่กำหนดตัวชี้วัดใหม่ออกมาก่อน หลังจากนั้น ถึงจะประกาศปฏิทินรับสมัครได้อย่างเป็นทางการต่อไป

เลขาธิการ กพฐ. กล่าวต่อไปว่า สำหรับการสอบครูผู้ช่วยกรณีพิเศษในครั้งนี้ จะต้องดำเนินการจัดสอบให้เสร็จสิ้นก่อนเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2567 ในเดือนพฤษภาคมนี้ ซึ่งในการสอบครูผู้ช่วยและไม่ว่าการจัดสอบกรณีใดๆ ก็ตาม พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ และนายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รมช.ศึกษาธิการ ในฐานะที่กำกับดูแลหน่วยงาน สพฐ. ได้กำชับว่าการสอบจะต้องโปร่งใส เป็นธรรม และตรวจสอบได้ ซึ่งตนได้กำชับเรื่องนี้ไปยังทุกเขตพื้นที่การศึกษาแล้วว่าอย่าให้มีเรื่องทุจริตหรือวิ่งเต้นเพื่อแลกในการสอบได้อย่างเด็ดขาด เพราะไม่เช่นนั้นจะมีโทษทางวินัยอย่างแน่นอน รวมถึงการที่ส่วนกลางเป็นผู้ดำเนินการออกข้อสอบ เราได้จ้างมหาวิทยาลัยที่มีความน่าเชื่อถือในการออกข้อสอบให้มีมาตรฐานเดียวกัน เพราะข้อสอบจะใช้ข้อสอบชุดเดียวกันทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เขตพื้นที่อยู่ระหว่างการสำรวจจำนวนอัตราว่างและสาขาวิชาต่างๆ ที่ขาดแคลน เพื่อวางแผนการจัดสอบต่อไป