จากการประเมินจากข้อมูลของประชากรทั่วโลกบ่งชี้ว่า จำนวน 70-80% ของคนทั้งโลกมีดวงตาสีน้ำตาล ขณะที่ 8-10% มีดวงตาสีฟ้าและ 2% มีดวงตาสีเขียว

ตามข้อมูลของ American Academy of Ophthalmology (AAO) หรือสมาคมจักษุแพทย์อเมริกัน ระบุว่า มนุษย์ทุกคนบนโลกมีดวงตาสีน้ำตาลเท่านั้นจนกระทั่งเมื่อ 10,000 ปีก่อน จึงเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น

มีตำนานหรือทฤษฎีที่เล่าขานกันมานานแล้วว่า ตาสีฟ้ามีต้นกำเนิดมาจากคนเพียงคนเดียว และคนที่มีตาสีฟ้าทั้งโลกก็มีบรรพบุรุษคนเดียวกัน 

เมื่อไม่นานมานี้ จักษุแพทย์รายหนึ่งที่เป็นเจ้าของบัญชีผู้ใช้งาน “ติ๊กต็อก” ในชื่อว่า “daveallambymd” ได้ออกมาสนับสนุนทฤษฎีดังกล่าวว่าคนตาสีฟ้ามีบรรพบุรุษคนเดียวกัน ดังนั้นคนตาสีฟ้าทั้งโลกจึงเป็นญาติกัน

เขาอธิบายว่าการที่คนมีดวงตาสีฟ้าได้นั้น มีต้นกำเนิดจากมนุษย์ยุคโบราณคนหนึ่งที่มีชีวิตอยู่ในช่วง 6,000-10,000 ปีก่อนแถบทะเลดำ คน ๆ นี้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรม พูดง่าย ๆ ว่ายีนของเขาเกิดผ่าเหล่าขึ้นมา โครโมโซมตัวที่ 15 ของเขาปรับเปลี่ยนตัวเอง กลายเป็น “ยีนด้อย” ทำให้ดวงตาของเขาเปลี่ยนจากสีน้ำตาลมาเป็นสีฟ้า

คนที่มีดวงตาสีฟ้าทั่วโลกที่มีอยู่ประมาณ 700 ล้านคน ล้วนได้รับ “ยีนด้อย” จากบรรพบุรุษท่านนี้ ซึ่งเท่ากับว่าเป็นญาติที่สืบเชื้อสายเดียวกันมา 

ส่วน ดร. เนวิลล์ ซันจานา ผู้เชี่ยวชาญด้านมนุษย์พันธุศาสตร์ ชี้แจงว่าในความเป็นจริงแล้ว เรื่องกำเนิดตาสีฟ้านี้ค่อนข้างซับซ้อนกว่าข้อมูลที่เอาไปบอกเล่ากันแบบสั้น ๆ 

เขากล่าวว่าตอนนี้หลักฐานที่มีอยู่ในปัจจุบันบ่งบอกว่า การเกิดยีนด้อยเมื่อ 6,000-10,000 ปีก่อนเป็นการกลายพันธุ์ของยีนที่ชื่อว่า OCA2 ซึ่งมีหน้าที่กำหนดเม็ดสีสีน้ำตาลในดวงตาของคน 

การกลายพันธุ์เป็น “ยีนด้อย” นี้เกิดขึ้นในกลุ่มคนที่อาศัยอยู่ในยุโรป จึงนับได้ว่าประชากรโลกทุกวันนี้ที่มีดวงตาสีฟ้าเป็นญาติกันห่าง ๆ เพราะได้รับยีนด้อยตัวนี้มาจากบรรพบุรุษคนเดียวกันเมื่อ 10,000 ปีก่อน

ดร. ซันจานา อธิบายว่า ความจริงแล้วมียีนทั้งหมด 8 ตัวที่กำหนดสีของดวงตามนุษย์ ดังนั้นสำหรับคนบางคนที่แม้ว่าจะไม่ได้มียีน OCA2 ที่กลายพันธุ์เป็นยีนด้อย แต่ก็อาจมีดวงตาสีฟ้าได้ เพราะปัจจัยที่มาจากยีนตัวอื่น ๆ ที่เหลืออีก 7 ตัว

ที่มา : ladbible.com

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES