สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม เมื่อวันที่ 8 ก.พ. ว่า ศูนย์บริการด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ของสถาบันโคเปอร์นิคัสแห่งสหภาพยุโรป (อียู) รายงานว่า อุณหภูมิของโลกในรอบ 12 เดือนล่าสุด คือระหว่างเดือน ก.พ. 2566 ถึง ม.ค. 2567 สูงกว่ามาตรวัดของศตวรรษที่ 19 ซึ่งเป็นยุคก่อนการปฏิวัติอุตสาหกรรม อยู่ที่ 1.52 องศาเซลเซียส
World logs first 12 months above 1.5°C warming level according to data from @CopernicusECMWF: "It is clearly a warning to humanity that we are moving faster than expected towards the agreed upon 1.5C limit that we signed," @jrockstrom told AFP. https://t.co/9IddgljKmV
— Potsdam Institute for Climate Impact Research PIK (@PIK_Climate) February 8, 2024
ทั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ที่อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกในรอบ 12 เดือน สูงกว่าช่วงเวลาดังกล่าว และยังสูงกว่าเกณฑ์ 1.5 องศาเซลเซียส ของข้อตกลงปารีสฉบับปี 2558 เน้นย้ำความสูญเสียที่เกิดขึ้นกับมนุษยชาติ ทั้งในด้านสังคมและเศรษฐกิจ ทั่วโลกเผชิญกับภัยธรรมชาติแทบทุกรูปแบบตลอดปีที่ผ่านมา และทวีความรุนแรงขึ้นด้วยปรากฏการณ์เอลนีโญ ซึ่งหลายฝ่ายให้ความเห็นว่า ทำให้อุณหภูมิโลกเมื่อปีที่แล้ว ร้อนที่สุดในรอบ 100,000 ปี
ขณะเดียวกัน สถานการณ์ที่เกิดขึ้น ยังเป็นคำเตือนว่าโลกร้อนเร็วขึ้นกว่าที่คิด แม้มีความเป็นไปได้ที่อุณหภูมิโลกอาจเย็นลงบ้าง เมื่อปรากฏการณ์เอลนีโญรอบนี้สิ้นสุด ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นช่วงเดือน เม.ย. แต่หากทุกฝ่ายยังคงไม่ใส่ใจกับเรื่องนี้อย่างจริงจัง อุณหภูมิโลกจะกลับมาสูงขึ้น และเกินเกณฑ์ของข้อตกลงปารีสมากไปอีก.
เครดิตภาพ : AFP