แช่ว่านยา 108 ชนิด เป็นกิจกรรมที่สำคัญอีกพิธีกรรมหนึ่งหนึ่ง ที่สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดพัทลุง ร่วมกับคณะกรรมการวัดเขาอ้อ ต.มะกอกเหนือ อ.ควนขนุน จ.พัทลุง จัดโครงการส่งเสริมท่องเที่ยวเชิงศาสนาและวัฒนธรรม กิจกรรมเส้นทางพุทธธรรม “ตามรอยพิธีกรรมสำนักเขาอ้อ” จัดระหว่างวันที่ 15-17 ก.พ. 67 ณ วัดเขาอ้อ และเป็นงานที่ประชาชนและคณะศิษย์วัดเขาอ้อ มีโอกาสได้กลับมารวมตัว รำลึกถึงครูบาอาจารย์และพบกันปีละ 1 ครั้ง ภายในบริเวณงานก็พร้อมไปด้วยการประกอบพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ เป็นไปตามแบบฉบับของวัดเขาอ้อ และจะจัดพิธีกรรมที่สำคัญพร้อมๆ กันถึง 3 พิธี และมีประชาชนทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ให้ความสนใจร่วมกิจกรรมกับทางวัดเป็นจำนวนมาก

วัดเขาอ้อ เป็นวัดที่มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่รู้จักของผู้คนที่ใจทางด้านไสยเวท แพทย์แผนไทยและไสยศาสตร์ การปลุกเสก ลงอักขระเลขยันต์และอื่นๆ มีอดีตเกจิอาจารย์ดังสายเขาอ้อ ไม่ว่าจะเป็นอาจารย์ทองเฒ่า อาจารย์ปาน อาจารย์เอียด อาจารย์นำ ได้ศึกษาเรียนรู้สืบทอดกันมาตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน สำหรับพิธีกรรมที่สำคัญเป็นที่นิยมของศิษย์วัดเขาอ้อและประชาชนทั่วไปให้ความสนใจและรอคอยที่จะเข้าร่วมกิจกรรมปีละครั้ง ไม่ว่าจะเป็นพิธีหุงข้าวเหนียวดำ พิธีปลุกเสกน้ำมันงา และพิธีกรรมด้านแช่ว่านยา 108 ชนิดของวัดเขาอ้อ

โดยเฉพาะพิธีแช่ว่านยา 108 ชนิด เป็นพิธีกรรมที่คณะศิษย์วัดเขาอ้อ และประชาชนคนใต้เฝ้ารอที่จะมีโอกาสร่วมพิธีกรรม แช่ว่านยา 108 ตามตำรับของวัดเขาอ้อ แม้จะรู้ดีว่าการที่จะได้แช่ว่านยานั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เพราะพิธีแช่ว่านยาก็มีขั้นตอน ข้อกำหนดมากมาย และที่สำคัญในแต่ละปี ทางอาจารย์ผู้ทำพิธีก็อนุญาตให้ลงอ่างแช่ว่านได้เพียงไม่กี่คน และจะเป็นผู้ที่อาจารย์ตรวจสอบดูประวัติแล้วว่าเป็นคนดี มีความอดทน สามารถปฏิบัติตามข้อห้าม ตามหลักวิชาของอาจารย์ได้ เพราะถ้าเปิดโอกาสให้ผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามข้อห้ามแล้ว จะทำให้ผู้ที่ผ่านการแช่ว่านยาตามพิธีกรรมของวัดเขาอ้อ จะนำผลไปใช้ในทางลบ และเกิดคึกคะนอง ปฏิบัติตนอยู่ในความประมาทและอาจจะนำไปสู่ความเสียหายได้

เมื่ออาจารย์เจ้าพิธีมีศิษย์ที่อยู่ในหลักเกณฑ์เหมาะกับพิธีกรรมแช่ว่านยาแล้ว อาจารย์และศิษย์ผู้ใกล้ชิดกับอาจารย์ ก็จะเตรียมจัดหาอุปกรณ์และเข้าป่าเก็บหาว่านยา สมุนไพร แต่ก็จะมอบหมายให้ศิษย์ผู้ใกล้ชิด ที่มีความรู้ทางด้านไสยศาสตร์ เป็นผู้รับผิดชอบจัดหาว่านยา เพราะการเก็บว่านทุกชนิดที่นำมาใช้ในพิธีกรรมแช่ว่านยา ศิษย์ที่อาจารย์มอบหมายจะต้องเสกคาถาตามหลักวิชาของวัดเขาอ้อทุกครั้ง การจัดเตรียมอุปกรณ์และอ่างน้ำที่ใช้สำหรับแช่ว่านยานั้น ปัจจุบันทางวัดได้สร้างอ่างถาวรไว้บริเวณภูเขาในวัดเขาอ้อ 3 อ่าง สามารถรองรับศิษย์ที่จะแช่ว่านได้ประมาณ 12 คน

ทั้งนี้ เมื่ออาจารย์และศิษย์ผู้ใกล้ชิดร่วมกันเก็บว่านได้มากพอที่จะนำไปเข้าพิธีกรรมแช่ว่านยาแล้ว จะต้องนำว่านยาที่มีสรรพคุณอยู่แล้ว ส่งมอบให้อาจารย์ลงอักขระเลขยันต์ทุกชนิด และทำพิธีปลุกเสกเพิ่มความขลัง ความศักดิ์สิทธิ์ให้เกิดมากขึ้น

การเตรียมว่านยาตามหลักวิชา ผ่านการปลุกเสกของอาจารย์แล้ว ก็จะจัดแบ่งว่านออกเป็น 2 ส่วน ส่วนหนึ่งนำไปผสมรวมไว้ในอ่างแช่ว่าน อีกส่วนหนึ่งก็นำไปใส่ปี๊บหรือหม้อต้มอื่นๆ เพื่อต้มเอาน้ำว่านยา และการต้มว่านจะต้องทำในมณฑลพิธีที่อาจารย์ได้กำหนดเขตวางสายสิญจน์ไว้เท่านั้น ลูกศษย์ที่จะเข้าร่วมทำพิธีทุกคนจะต้องนุ่งขาว ห่มขาว และไม้ที่ใช้ทำฟืนก่อไฟต้มยา จะต้องเป็นไม้มงคล ท่อนฟืนรวมทั้งอุปกรณ์ที่ใช้ในพิธี อาจารย์จะลงอักขระเลขยันต์ทุกชิ้น แลในระหว่างต้นว่านยา อาจารย์จะทำพิธีปลุกเสกคาถาอยู่ตลอดเวลา ลูกศิษย์ที่ได้รับมอบหมายจะต้มว่านยาจนเดือด และนำน้ำว่านไปวางให้เย็นก่อนที่จะนำไปเติมลงในอ่างแช่ว่าน

ส่วนวันเวลาที่จะเปิดให้ผู้ที่ลงอ่างแช่ว่าน อาจารย์จะเป็นผู้กำหนดวันฤกษ์ยามที่เป็นมงคล จะไม่ทำพิธีในวันโลกาวินาศหรือวันอุบาทว์ เมื่อกำหนดวันลงตัวแล้ว ลูกศิษย์ที่จะลงอ่างแช่ยา จะนุ่งผ้าขาวม้าเพียงผืนเดียว เข้าไปนั่งร่วมในมณฑลพิธี อาจารย์จะนำเข้าสู่พิธีบูชาพระรัตนตรัยและรับศีลจากอาจารย์ ก่อนที่จะลงไปนอนแช่ว่านยาในอ่างที่เตรียมไว้ และจะมีพระสงฆ์ 5 รูป สวดปลุกเสก ในระหว่างทำพิธีทุกขั้นตอน และห้ามไม่ให้สตรีเพศเข้าไปยุ่งเกี่ยวในมณฑลพธีโดยเด็ดขาด ผู้ที่นอนแช่ว่านก็ห้ามเดินออกจากมณฑลพิธี เพราะถ้ามีผู้หนึ่งผู้ใดออกนอกมณฑลพิธี หรือแหกกฎข้อห้าม การแช่ว่านยาจะไม่ได้ผลและจะต้องเริ่มทำพิธีใหม่ทุกขั้นตอน

สำหรับวันเวลาที่แช่ว่าน ก็ขึ้นอยู่กับความทั้งใจและอดทนของผู้ที่นอนแช่ว่าน บ้างก็ใช้เวลาได้เพียง 1 วัน แต่ส่วนใหญ่ก็ใช้เวลาแช่ยาเป็นเวลา 3 วัน แต่ก็ต้องไม่เกิน 7 วัน ระหว่างที่นอนอ่างแช่ว่าน ก็ต้องระวังไม่ให้น้ำว่านเข้าตาโดยเด็ดขาด เพราะอาจจะทำให้ตาบอดได้

แม้ว่าชั้นตอนการเข้าพิธีแช่ว่านยา จะยุ่งยากละเอียดอ่อน ผู้คนจำนวนมากโดยเฉพาะผู้ที่เหลื่อมใสในวิชาไสยศาสตร์ของวัดเขาอ้อ ก็อยากจะแช่ว่านยาสักครั้งหนึ่งในชีวิต เพราะเชื่อว่าผู้ที่ผ่านพิธีกรรมแช่ว่านยาตามหลักวิชาของวัดเขาอ้อแล้ว จะทำให้บุคคลนั้นมีตบะ และมีอำนาจอย่างเสือ มีความอดทนอย่างหมี มีความเข้มแข็ง แคล้วคลาดจากภัยอันตรายทั้งปวง สามารถแก้โรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ได้เป็นอย่างดี และมีความเชื่อว่าผู้ที่แช่ว่านยาวัดเขาอ้อติดต่อกันถึง 3 ครั้งขึ้นไป จะทำให้ร่างกายอยู่ยงคงกระพันต่ออาวุธทุกชนิด

อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ผ่านการแช่ว่านยาทุกคน จะต้องปฏิบัติตามข้อห้ามอย่างเคร่งครัด จะต้องปฏิบัติตนเป็นคนดี ห้ามผิดลูกเมียผู้อื่น ห้ามกินอาหารที่มีชื่อไม่เป็นมงคล เพราะข้อห้ามดังกล่าว หากไม่ปฏิบัติจะทำให้ความศักดิ์สิทธิ์เสื่อมเสีย และจะต้องเข้าทำพิธีแช่ว่านยาใหม่ด้วย