จากกรณี มีผู้เสียหายร้องต่อสื่อมวลชน ว่าโดนเพื่อนบ้านบุกรุกยึดบ้านพักพื้นที่ย่านรามอินทรา โดยอ้างสิทธิการครอบครองปรปักษ์ ทั้งยังติดป้ายข่มขู่จะแจ้งตำรวจจับ หากเจ้าของบ้านกลับมาเอาบ้านคืน จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างร้อนแรง

โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 12 ก.พ. ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ได้แสดงความเห็นผ่านรายการโหนกระแส ระบุว่า ผมว่าอยู่เฉยๆ ก็ชนะแล้วนะ เพราะพยานหลักฐานมันชัดเจนว่าเขาครอบครองปี 60 ไม่น่ามีอะไร กูเกิลมันชัดเจน เมื่อ 2-3 วัน ของผมก็มีคดีสไตล์หน้าด้านแบบนี้ที่ชลบุรี วันที่ 30 ม.ค. ศาลก็ยกฟ้องแนวหน้าด้านแบบนี้เหมือนกัน

“กลัวเขาไม่ฟ้อง ฟ้องมาเลยจะได้บอกศาลว่าแบบนี้เรียกว่าหน้าด้านหรือเรียกว่าอะไรดี คนพวกนี้อย่าไปเล่นเบาๆ ต้องเอาหนักๆ ขนาดมันออกไปแล้วยังเข้ามาใหม่ ไม่เรียกว่าหน้าด้านจะเรียกว่าอะไรล่ะครับ”

ส่วนหลักฐานที่บอกว่าเข้าไปอยู่ตั้งแต่ปี 54 คือมันไม่มีครับ คำร้องของเขาเองเอกสารที่เขาแนบมา ภาพถ่ายเนี่ย มันก็ชัดอยู่แล้วว่าไม่มี เขาแนบกูเกิลได้แค่บางปีเอง แล้วศาลเดี๋ยวนี้เขาดูกูเกิลหมด มันชัดเจน เป็นพยานหลักฐานที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้

ส่วนเรื่องการติดป้ายขายไก่หน้าบ้าน เราก็ไปแจ้งความแล้วที่โรงพักโคกครามแต่เขาไม่มีปัญญา โรงพักนี้ เดี๋ยวผมไปฟ้องเอง ไม่มีอะไร ถ้าไม่มีปัญญาช่วยเหลือคนในพื้นที่ ผมก็รู้จักทั้งผกก.และรองผกก. เราก็ต้องช่วยเหลือตัวเอง จะไปพึ่งอะไรเขา ซึ่งจริงๆ แล้ว ตำรวจเขาต้องจัดการ ไอ้พวกนั้นเป็นของกลางทั้งนั้น แต่เขาอาจไม่ไหวแล้ว งานหนัก ช่วยเหลือตัวเองดีกว่า ฟ้องเอง

แล้วในป้ายที่เขียนว่าได้กรรมสิทธิ์โดยครอบครองปรปักษ์ตามกฎหมาย ทนายเดชาย้ำว่า “หน้าด้าน ศาลยังไม่สั่งเลย ทำไมหน้าด้านขนาดนี้ ผมเกิดมา 60 แล้วนะ ยังไม่เคยเห็นใครหน้าด้านขนาดนี้เลย หน้าด้านจริงๆ อยากให้ฝั่งโน้นนึกถึงบาปบุญคุณโทษบ้าง คนเราเกิดมานับถือศาสนาพุทธ ยื่นภาพถ่ายมา ทำบุญตักบาตรทุกวันเลย แต่ไปแย่งทรัพย์สินของผู้อื่น อย่างนี้เขาเรียกพวกบาปหนา”

ส่วนคุยกับอากู๋เรียบร้อยแล้ว เอาติดคุกให้หมด ทั้งคนร้อง คนเบิกความเท็จ เราจะเอาเข้าคุกให้หมดเลย ถ้าปล่อยคนเหล่านี้ไป วันข้างหน้าหมู่บ้านนี้ไม่เหลือหรอก เดี๋ยวก็เป็นของเขาหมด แทนที่จะหาเงินมาซื้อเอง กลับไปยึดบ้านเขาคนอาไร้คนอาไร

“ผมเป็นทนายปีนี้ปีที่ 39 ก็ไม่เห็นอะไรที่มันหน้าด้านหน้าทนอะไรขนาดนี้ และไม่คิดว่าจะมีคนรับจ้างว่าความด้วย โหย เขารับไปได้ยังไง ทนายคนเดิมก็ถอนตัวไปแล้ว ขอโทษขอโพยไปแล้วว่ามันไม่มีศีลธรรม ไปแย่งทรัพย์สินเขา เขาถอนตัวไปหมดแล้ว” ทนายเดชากล่าว..

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก @โหนกระแส