กรณีป้าถูกกรมบังคับคดีเตรียมขายทอดตลาดบ้าน ทั้งๆ ที่ไม่ได้ยืมเงินและกลับถูกฟ้อง นั้น คืบหน้าเมื่อวันที่ 23 ก.พ. โดยในช่วงเช้า น.ส.ธันย์นิชา เอกสุวรรณวัฒน์ หรือ ทนายพัช นำนางบุญทา ด้วงรอด อายุ 54 ปี พร้อมนางน้ำ ด้วงรอด อายุ 75 ปี มารดา ชาวบ้านใน ต.โคกม่วง อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง ไปแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทลุง เพื่อให้ดำเนินคดีนายทัดเทพ พิทักษา ผู้รับมอบอำนาจ จาก น.ส.อำภา ลี้มรสกุล ในข้อหาร่วมกันปลอมแปลงและใช้เอกสารเท็จ และผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

‘แม่-ลูก’ น้ำตานองไม่เคยกู้ยืม ยากจนไม่รู้จักแม้แต่ ‘บัตรเครดิต’ แต่ถูกปักป้ายยึดบ้านพัทลุง

หลังจากวานนี้ ขอความช่วยเหลือสื่อมวลชน เนื่องจากช่วงต้นเดือน พ.ย. 66 มีเจ้าหน้าที่บังคับคดีไปปิดประกาศที่หน้าบ้านของตัวเอง เพื่อนำบ้านไปขายทอดตลาด และเมื่อสอบถามถึงสาเหตุ ได้คำตอบว่า นางบุญทา ถูกฟ้องร้อง เนื่องจากเมื่อปี 62 กู้เงิน จำนวน 150,000 บาท จากเจ้าหนี้รายหนึ่งที่กรุงเทพฯ แล้วไม่ชำระหนี้

นอกจากนี้ เมื่อตรวจสอบคำฟ้อง พบพิรุธในเอกสาร โดยสัญญาเงินกู้ 3 ฉบับ แบ่งเป็นกู้เงิน 60,000 บาท 2 ฉบับ และ 30,000 บาท 1 ฉบับ พบว่า เขียนชื่อ บุญทา จาก ท.ทหาร เป็น ฑ.นางมณโท และสัญญากู้เงิน 30,000 บาท มีการแก้ไขตัวเลข รวมทั้งอายุของผู้ถูกฟ้อง ก็ไม่ตรงกับนางบุญทา โดยนางบุญทา ยืนยันว่า มีอาชีพรับจ้างกรีดยางพารา รายได้วันละ 200-300 บาท ไม่เคยกู้เงินจากใคร และไม่รู้จักเจ้าหนี้คนนี้ ส่วนการขอความช่วยเหลือจากสำนักงานยุติธรรมจังหวัดพัทลุง เจ้าหน้าที่ได้แจ้งว่า หมดอำนาจหน้าที่ของผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง พร้อมแนะนำให้ไปพบอัยการคุ้มครองสิทธิ์ ที่สำนักงานยุติธรรมจังหวัดพัทลุง แต่ต้องการประชุมคณะกรรมการอีก 1 เดือน

ขณะเดียวช่วงบ่ายที่ผ่านมา น.ส.ธันย์นิชา เอกสุวรรณวัฒน์ หรือ ทนายพัช พร้อมทนายโยธิน ตุลยกุล ได้นำนางบุญทาและนางน้ำ มารดา ไปยังศาลจังหวัดพัทลุง เพื่อเพิกถอนกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบตามมาตรา 27 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง.