จากกรณี พบศพชายชาวไต้หวัน มีบาดแผลถูกยิง 2 นัดบริเวณศีรษะ ภายในร้านอาหารร้าง บริเวณถนนสนามบินสุวรรณภูมิ สาย 4 ต.หนองปรือ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ โดยทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุและใกล้เคียง พบรถยนต์ สีแดง ต้องสงสัยมาจอดที่บริเวณดังกล่าวในช่วงเช้า ของวันเดียวกัน

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 26 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลางดึกคืนวันที่ 25 ก.พ. 67 ที่ผ่านมา พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ พ.ต.อ.จักรพงศ์ นุชผดุง ผกก.สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ พร้อมด้วยฝ่ายสืบสวน สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสน.โคกคราม และกองพิสูจน์หลักฐาน ร่วมกันนำกำลังเข้าตรวจสอบบ้านหลังหนึ่งในหมู่บ้านย่านลาดพร้าว หลังสืบทราบว่าบ้านหลังดังกล่าวมีความเชื่อมโยงและเป็นคาดว่าเป็นจุดสังหารผู้เสียชีวิต

ที่เกิดเหตุเป็นทาวน์โฮมสูง 3 ชั้น พบยาเคตามีน น้ำหนักประมาณครึ่งกิโลกรัม บรรจุในถุงพลาสติกสีขาวใส ทางเจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน ก่อนส่งมอบให้ทางพนักงานสอบสวน สน.โคกคราม เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย และข้างบ้านหลังดังกล่าวพบ รถ จยย.ยี่ห้อดูคาติสีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนจอดอยู่

พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผบก.ตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ เปิดเผยว่า จากแนวทางการสืบสวน คาดว่าผู้เสียชีวิตถูกสังหารมาจากอีกจุดหนึ่งก่อนถูกนำมาทิ้งอำพรางในพื้นที่สมุทรปราการ ทั้งนี้จากแนวทางการสืบสวนสอบสวนเชิงลึกพบมีส่วนเกี่ยวข้องกับบ้านหลังดังกล่าว โดยพยานบุคคลได้ยิงเสียงปืนดังขึ้น 2 นัด ในช่วงเช้ามืดของวันนี้ อีกทั้งยังพบรถจยย.ยี่ห้อดูคาติ สีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ซึ่งเป็นของผู้ตายจอดอยู่ข้างตัวบ้านอีกด้วย

พล.ต.ต.วิชิต กล่าวต่ออีกว่า จากการตรวจค้นพบยาเสพติดเป็นยาเคตามีน น้ำหนักประมาณ 500 กรัม ซุกซ่อนอยู่และยังพบว่าภายในบ้านมีบางจุดที่มีลักษณะใช้สารเคมีพยายามทำลายพยานหลักฐาน ทั้งนี้จากการตรวจสอบประวัติของกลุ่มผู้ก่อเหตุ ซึ่งคาดว่ามีประมาณ 4-5คน พบมีการเดินทางออกนอกประเทศไทยไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบปากคำพยานแต่ยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลใดๆได้ในขณะนี้

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวสอบถามเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้บ้านที่เกิดเหตุให้ข้อมูลว่า บ้านหลังจุดเกิดเหตุ เป็นของคนไทย แต่มีวัยรุ่นชาวจีนมาขอเช่าประมาณเดือนธ.ค. ของปีที่แล้ว แต่โดยปกติจะมีหญิงไทย อายุประมาณ 20 ปีเศษ พักอาศัยอยู่เป็นประจำเพียงลำพังเท่านั้น และจะมีชาวจีนประมาณ 3-4 คน จะมาเป็นบางครั้ง สำหรับผู้เสียชีวิตพักอาศัยอยู่บริเวณซอย 5 ในหมู่บ้านดังกล่าว

ด้านพยานอีกรายหนึ่งซึ่งอาศัยอยู่ใกล้บ้านหลังดังกล่าว เล่าว่า เมื่อเวลาประมาณ 02.00 ของวันที่ 25 ก.พ. ตนเห็นผู้เสียชีวิตได้ขี่รถ จยย.เข้ามาที่บ้านหลังดังกล่าว ก่อนจะเดินเข้าไปภายในบ้าน ต่อมาได้มีชายอีก 2 คน ขับรถยนต์เข้ามา ซึ่งทั้งสองคนนี้ได้ลากกระเป๋าเดินทางใบค่อนข้างใหญ่ เข้าไปภายในบ้าน จากนั้นตนได้ยินเสียงคนพูดคุยกันคล้ายภาษาจีน และเดินเข้าออกบ้านตลอดเวลา กระทั่งเวลาประมาณ 03.00 น. ได้ยินเสียงดังคล้ายปืนขึ้นมา 1 นัด ถัดมาอีกประมาณ 15 นาที ก็ได้ยินเสียงคล้ายปืนดังขึ้นมาอีก 1 นัด ทำให้ตัวรู้สึกหวาดกลัวจึงรีบกลับเข้าไปในบ้านและไม่เห็นเหตุการณ์อะไรอีกเลย

อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบประวัติของผู้เสียชีวิตทราบชื่อต่อมาคือ Mr.Shih Mou Chiang อายุ 44 ปี ซึ่งมีหมายจับจากประเทศไต้หวัน ในข้อหาคดีปล้น และครอบครองอาวุธปืน ก่อนมาในประเทศไทย

นอกจากนี้ยังมีรายงานข่าวแจ้งว่า หลังจากมีการยิงกันเกิดขึ้นแล้ว พบว่ามีรถเก๋งสีแดงได้ขับออกไปจากหมู่บ้านดังกล่าว ซึ่งคาดว่านำศพไปทิ้งบริเวณสนามบินก่อนที่จะหลบหนีไป โดยมีหญิงไทย ซึ่งเป็นอดีตภรรยาเจ้าของรถคันสีแดงไปด้วย โดยล่าสุดไปปรากฏตัวที่ด่านคลองลึก จ.สระแก้ว เพื่อข้ามไปประเทศกัมพูชา เวลา 13.00 น ซึ่งหลังจากทิ้งศพแล้วมีชายชาวจีน 2 คน ย้อนกลับมาที่เกิดเหตุ เพื่อมาล้างทำลายหลักฐาน สำหรับรถคันสีแดงมาถูกพบว่ามีการจอดหมกเอาไว้บริเวณเลียบมอเตอร์เวย์จากสนามบินมุ่งหน้าขาออก