สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองกาซาซิตี ฉนวนกาซา เมื่อวันที่ 29 ก.พ. ว่า กระทรวงสาธารณสุขปาเลสไตน์ รายงานจำนวนผู้เสียชีวิตในฉนวนกาซา จากการสู้รบระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส ซึ่งยืดเยื้อตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค. 2566 เพิ่มเป็นมากกว่า 30,000 รายแล้ว หลังในรอบ 24 ชั่วโมงล่าสุด จนถึงเมื่อวันพุธที่ผ่านมา มีการยืนยันผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 79 ราย จากปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของกองทัพอิสราเอล ซึ่งยังคงเกิดขึ้นแทบทุกพื้นที่ในฉนวนกาซา


การเปิดเผยดังกล่าวเกิดขึ้น ท่ามกลางความพยายามครั้งใหม่ของนานาประเทศ นำโดยกาตาร์และอียิปต์ ซึ่งพยายามเจรจากับอิสราเอลและกลุ่มฮามาส เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายบรรลุกข้อตกลงหยุดยิงครั้งใหม่ ให้ครอบคลุมตลอดเดือนรอมฎอน หรือการถือศีลอดของชาวมสุลิม ที่จะเริ่มในวันที่ 10 มี.ค. นี้

ผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ ต่อแถวรอรับการแจกอาหารจากเจ้าหน้าที่ ที่เมืองเบอิต ลาเฮีย ทางตอนเหนือของฉนวนกาซา


ขณะที่แหล่งข่าวระดับสูงในกลุ่มฮามาสไม่ได้กล่าวถึง “การหยุดยิงถาวร” แต่เรียกร้องกองทัพอิสราเอล ถอนทหารออกจากพื้นที่ชุมชนและเมืองใหญ่ในฉนวนกาซา การที่ชาวปาเลสไตน์ซึ่งต้องอพยพออกจากพื้นที่สู้รบทางเหนือของฉนวนกาซา สามารถเดินทางกลับเข้าสู่พื้นที่ได้ดังเดิม และการเพิ่มความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม


ด้านอิสราเอล ซึ่งมีผู้เสียชีวิตประมาณ 1,160 ราย ต้องการให้กลุ่มฮามาสปล่อยตัวประกันที่ยังเหลือทั้งหมดราว 130 คน ซึ่งมีชาวต่างชาติรวมอยู่ด้วย รวมถึงพลเมืองไทย 8 คน โดยจะเป็นการแลกเปลี่ยนกับนักโทษชาวปาเลสไตน์บางส่วน ซึ่งอิสราเอลคุมขังไว้


ทั้งนี้ อิสราเอลยังคงยืนยัน แผนปฏิบัติการโจมตีภาคพื้นดิน ที่เมืองราฟาห์ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ทางตอนใต้สุดของฉนวนกาซา และอยู่ติดกับอียิปต์ อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายรวมถึงสหรัฐยังคงคัดค้าน เนื่องจากกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ด้านมนุษยธรรมในเมืองราฟาห์ ซึ่งความช่วยเหลือไม่สามารถเข้าถึงได้นานกว่า 1 เดือนแล้ว.

เครดิตภาพ : AFP