สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 2 มี.ค. ว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ลงพื้นที่เมืองบราวน์สวิลล์ ในรัฐเทกซัส ซึ่งอยู่ใกล้กับพรมแดนเม็กซิโก เพื่อสังเกตการณ์การบริหารจัดการสถานการณ์


ในเวลาเดียวกัน นายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตผู้นำสหรัฐ และเป็นตัวเก็งคว้าตำแหน่งตัวแทนพรรครีพับลิกัน ลงพื้นที่เมืองอีเกิล พาส ที่อยู่ไม่ห่างจากพรมแดนเม็กซิโก โดยทรัมป์ได้รับการต้อนรับจากนายเกร็ก แอบบอตต์ ผู้ว่าการรัฐเทกซัสด้วย


ทั้งนี้ ไบเดนกล่าวว่า ทรัมป์พยายามทำให้สถานการณ์ผู้อพยพ “เป็นประเด็นทางการเมือง” และเรียกร้องพรรครีพับลิกัน ซึ่งครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร ให้ผ่านกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะเป็นการเพิ่มจำนวนบุคลากรให้กับหน่วนงานด้านการลาดตระเวนพรมแดน และการเพิ่มค่าตอบแทนให้แก่เจ้าหน้าที่ด้วย


ขณะที่ทรัมป์กล่าวว่า สถานการณ์ตามแนวพรมแดนระหว่างสหรัฐกับเม็กซิโก ที่มีผู้อพยพพยายามข้ามพรมแดนมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง “คือการรุกรานของไบเดน” ที่หละหลวม และวิจารณ์การให้สถานะแก่ผู้อพยพ ยิ่งเป็นการดึงดูดให้ความพยายามลักลอบข้ามพรมแดนเพิ่มขึ้น


ตอนนี้ รัฐเทกซัสอยู่ระหว่างก่อสร้าง “ค่ายที่พักทางทหาร” ในเมืองอีเกิล พาส ซึ่งอยู่ติดกับแม่น้ำรีโอแกรนด์ พรมแดนทางธรรมชาติระหว่างสหรัฐกับเม็กซิโก โดยสถานที่แห่งดังกล่าว “จะเป็นแบบถาวร” สามารถรองรับเจ้าหน้าที่กองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิได้ประมาณ 300 นาย ภายในเดือน เม.ย. นี้


หลังจากนั้น จะมีการขยับขยายพื้นที่อีก ให้สามารถประจำการทหารได้สูงสุดประมาณ 2,300 นาย เพื่อยกระดับให้กับประสิทธิภาพของการควบคุมพรมแดนทางตอนใต้ของสหรัฐ จากความพยายามลักลอบเข้าประเทศ ของผู้อพยพที่เดินทางผ่านเม็กซิโก


อนึ่ง แอบบอตต์มีข้อพิพาทกับรัฐบาลวอชิงตันชุดปัจจุบันจากพรรคเดโมแครต เกี่ยวกับการขับเคลื่อนนโยบายเรื่องผู้อพยพมานานแล้ว โดยผู้ว่าการรัฐเทกซัสกล่าวว่า ไบเดนปล่อยปละละเลย จนเกิด “การรุกราน” ของคลื่นผู้อพยพผิดกฎหมาย และไม่สามารถประสานงานกับเม็กซิโก เพื่อจัดการขบวนการค้ายาเสพติดได้อย่างมีประสิทธิภาพ.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES