เมื่อวันที่ 2 มี.ค. บรรยากาศที่สมาคมชาวปักษ์ใต้ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ซึ่งมีการประชุม โดยมีประชาชนจาก 14 จังหวัดในภาคใต้ เป็นตัวแทนให้กำลังใจกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. โดยเมื่อ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เดินทางมาถึง ประชาชนที่มารอรับด้านหน้าต่างตั้งแถว พร้อมตะโกนว่า “บิ๊กโจ๊ก สู้ๆ” ก่อนที่จะเดินไปที่ทางไปสักการะหลวงปู่ทวด และองค์จตุคามรามเทพ ซึ่งเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจและศูนย์รวมความเชื่ออย่างหนึ่งของชาวปักษ์ใต้

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า รู้สึกดีใจและปลื้มใจที่ประชาชนมารอรับเกือบ 2,000 คน วันนี้เหมือนเป็นการเติมพลังให้ตนเองในการทำงาน ในการต่อสู้กับอุปสรรคต่างๆ ทำให้มีพลังมากยิ่งขึ้น และเป็นเรื่องที่ทำให้ต้องตระหนักว่า เราจะต้องทำเพื่อประชาชนให้มากยิ่งขึ้น และปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ไม่ทำให้พี่น้องประชาชนที่เป็นกำลังใจให้ผิดหวัง

“ตนพร้อมทำงานเพื่อประชาชนและประเทศชาติต่อไป เพราะศรัทธาของประชาชนยิ่งใหญ่กว่ายศตำแหน่งที่ได้รับ” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าว

สำหรับประเด็นที่มีคนนำเรื่องเก่า เรื่องใหม่มาฟ้องร้อง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว ตนจะปฏิบัติงานอย่างเข้มแข็ง เพื่อตอบแทนกำลังใจจากพี่น้องประชาชนที่มีให้กับตนเอง ส่วนประเด็นที่มีบุคคลยื่นฟ้องมาหลายเรื่อง รวมทั้งเรื่องปัจจุบันและในอดีต พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า ให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ตนจะทำงานตามหน้าที่ต่อไป สิ่งที่สำคัญในตอนนี้จะต้องมีสมาธิ ที่ต้องทำงานให้กับพี่น้องประชาชนและบ้านเมืองต่อไป

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังปฏิเสธถึงภาพนกแก้ว นกอินทรี และราชสีห์ ที่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ส่งให้ว่า ยังไม่เห็น เพราะตลอด 2-3 วันที่ผ่านมา งานยุ่งตลอด และเดินทางไปในหลายจังหวัด เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชน จึงยังไม่ได้เปิดดูภาพดังกล่าว

ในส่วนของการช่วยเหลือคนไทยที่ถูกหลอกไปทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในเมียวดี ประเทศเมียนมา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เผยว่า เบื้องต้นได้รับข้อมูลว่า มีคนไทยมากกว่า 900 คน อยู่ที่นั่น แต่ยังไม่ทราบพิกัดที่แน่ชัดว่า คนไทยทั้งหมดกระจายอยู่ที่จุดไหนบ้าง ซึ่งได้มีการประสานงานไปยังประเทศจีน และประเทศเมียนมา เพื่อขอความช่วยเหลือนำคนไทยกลับประเทศ เมื่อกลับมาแล้ว ก็จะดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ที่กระทำความผิดต่อไป