ราคา Bitcoin (BTC) ทำระดับสูงสุดใหม่ที่ 2,300,000 บาท เมื่อวันที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2567 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดใหม่ครั้งประวัติศาสตร์ จากระดับสูงสุดเดิมที่ 2,285,500 บาทในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2564 ซึ่งเป็นผลมาจากกระแสความสนใจในกองทุน Spot Bitcoin ETF ในสหรัฐฯ ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

การปรับขึ้นทำราคาสูงสุดใหม่ของ Bitcoin รอบนี้นับว่าเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ เนื่องจาก Bitcoin ไม่เคยทำราคาสูงสุดใหม่ก่อนเกิดเหตุการณ์ Bitcoin Halving มาก่อน โดยหนึ่งในปัจจัยที่นักวิเคราะห์เชื่อว่าเป็นตัวกระตุ้นการเคลื่อนไหวของราคาบิทคอยน์คือการอนุมัติกองทุน Spot Bitcoin ETF ในสหรัฐฯ เมื่อเดือนมกราคมปีนี้

รายงานจาก Cointelegraph ระบุว่าปริมาณซื้อขายกองทุน Spot Bitcoin ETF ในสหรัฐฯ ได้ทำลายสถิติใหม่ โดยมียอดซื้อขายสูงถึง 7.69 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567 จากสถิติเดิมที่ 4.66 พันล้านดอลลาร์เมื่อวันที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2567 นำโดยกองทุน iShares Bitcoin ETF ของ BlackRock ที่มียอดซื้อขายสูงถึง 3.35 พันล้านดอลลาร์ ตามมาโดย Grayscale Bitcoin Trust ที่ 1.86 พันล้านดอลลาร์ และ Fidelity Wise Origin Bitcoin Fund ที่ 1.44 พันล้านดอลลาร์

ขณะที่ข้อมูลจาก Companiesmarketcap เมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567 แสดงให้เห็นว่ามูลค่าตลาดของ Bitcoin ได้ปรับสูงขึ้นแตะระดับ 1.209 ล้านล้านดอลลาร์ หากเปรียบ Bitcoin เป็นบริษัท ก็นับว่ามีมูลค่าตลาดติดอันดับ 10 ของบริษัทที่มีมูลค่าสูงสุดทั่วโลก สูงกว่า Berkshire Hathaway, TSMC, หรือ Tesla

ทางด้านดัชนี Crypto Fear & Greed ยังทำระดับสูงสุดที่ 82 จุด ซึ่งเป็นระดับเดียวกับตอนที่ราคา Bitcoin ทำระดับสูงสุดเดิมที่ 2,285,500 บาทในเดือนพฤศจิกายน ปี พ.ศ. 2564 สะท้อนมุมมองของตลาดที่เป็นเชิงบวกเกี่ยวกับราคาบิทคอยน์ในระยะสั้น

ทางด้านราคาคริปโทเคอร์เรนซีสกุลอื่น ๆ ต่างปรับสูงขึ้นตามราคาบิทคอยน์ในวันนี้ เช่น ราคา Ethereum (ETH) สกุลเงินดิจิทัลที่มีมูลค่าตลาดสูงสุดเป็นอันดับ 2 สามารถปรับขึ้นได้ 5.24% ทำระดับสูงสุดภายใน 24 ชั่วโมงที่ 123,931 บาท ขณะที่ราคา Cardano (ADA) สามารถปรับขึ้นได้ 3.70% ทำระดับสูงสุดภายใน 24 ชั่วโมงที่ 23.30 บาท เป็นต้น

ทั้งนี้ เหตุการณ์ Bitcoin Halving เป็นเหตุการณ์ที่จะทำให้รางวัลจากการขุด Bitcoin ลดลงครึ่งหนึ่งจาก 6.25 BTC เหลือ 3.125 BTC ซึ่งส่งผลให้อุปทานของบิทคอยน์ลดน้อยลง โดย Bitcoin Halving ครั้งที่ 4 ถูกคาดว่าจะเกิดขึ้นภายในช่วงปลายเดือนเมษายน พ.ศ. 2567 ที่จะถึงนี้ จึงเป็นที่น่าจับตาว่าการมาของ Bitcoin Halving ครั้งนี้จะส่งผลอย่างไรกับ Bitcoin และวงการคริปโทเคอร์เรนซี

อ้างอิง: Bitkub Blog

_________________________________________

คำเตือน:

* คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
** สินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยง โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
*** ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีตหรือผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทน ของสินทรัพย์ดิจิทัลหรือผลการดำเนินงานในอนาคต