สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 5 มี.ค. ว่านายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีจีน แถลงต่อที่ประชุมสภาประชาชนแห่งชาติ (เอ็นพีซี) ที่มหาศาลาประชาชน ในกรุงปักกิ่ง กำหนดเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนในปีนี้ ไว้ที่ระดับ “ประมาณ 5%” ซึ่งเป็นระดับเดียวกับปีที่แล้ว


ทั้งนี้ นายหลี่ กล่าวว่า “เสถียรภาพ” มีความสำคัญอย่างมากในภาพรวม และเป็นพื้นฐานสำหรับการขับเคลื่อนนโยบายทุกด้านของจีน ความก้าวหน้าเป็นทั้งเป้าหมายและแรงผลักดัน อย่างไรก็ดี ทุกฝ่ายต้องร่วมกันปฏิรูปกลไกเพื่อนำไปสู่การเติบโต การปรับเปลี่ยนโครงสร้าง การยกระดับคุณภาพ และการส่งเสริมผลงาน


ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีจีนกล่าวถึงแผนงบประมาณกลาโหมประจำปีนี้ ว่าจะเพิ่มขึ้น 7.2% จากปีที่แล้ว นับเป็นการเพิ่มขึ้นเป็นปีที่ 9 ติดต่อกัน สู่ระดับ 1.67 ล้านล้านหยวน (ราว 8.48 ล้านล้านบาท)


แม้เป็นงบประมาณใช้จ่ายทางทหารที่น้อยกว่าหลายเท่าตัว หากเทียบกับงบประมาณในส่วนเดียวกันของสหรัฐ แต่หลายฝ่ายเชื่อว่า การใช้จ่ายด้านกลาโหมและในส่วนที่เกี่ยวข้องของจีน “สูงกว่านั้นมากในความเป็นจริง”


อนึ่ง เอกสารแยกอีกฉบับหนึ่ง ซึ่งเผยแพร่ก่อนการประชุมเอ็นพีซีเริ่มขึ้น เน้นย้ำว่า “จีนคัดค้านกิจกรรมแบ่งแยกดินแดนทุกรูปแบบอย่างถึงที่สุด” ที่มีเป้าหมาย “การเป็นเอกราชของไต้หวัน” และ “การแทรกแซงจากภายนอก” โดยไม่มีการระบุถึง “การรวมชาติอย่างสันติ” ในรายงานปีนี้


นอกจากนั้น จีนกล่าวถึงการขับเคลื่อนนโยบายยุทธศาสตร์แห่งชาติ เพื่อกระตุ้นการมีบุตรของประชาชน หลังจำนวนประชากรลดลงเป็นปีที่สองติดต่อกัน เมื่อปี 2566 สถิติการเกิดของประชากรเมื่อปีที่แล้ว ลดลงเกือบครึ่งหนึ่ง เมื่อเทียบกับสถิติของปี 2559 และสถิติการแต่งงานเมื่อปี 2565 ต่ำเป็นประวัติการณ์ ส่วนสวัสดิการเพื่อผู้สูงอายุจะมีการเพิ่มเงินบำนาญ และเบี้ยยังชีพ.

เครดิตภาพ : AFP