ค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่จากแดนมังกรอย่าง จีเอซี ไอออน (GAC AION) หรือ GAC AION NEW ENERGY AUTOMOBILE CO., LTD เป็นผู้ผลิตรถยนต์ที่มียอดจำหน่ายอันดับ 2 ในประเทศจีน และเป็นหนึ่งในรัฐวิสาหกิจของจีน โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่เมืองกวางโจว และได้รับความนิยมในประเทศจีนในฐานะรถที่เชื่อถือได้ ทนทาน ดีไซน์สวยงามทันสมัย และมาพร้อมเทคโนโลยีอัจฉริยะ โดยแบรนด์ GAC Aion นี้เป็นแบรนด์ที่เน้นไปที่รถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) โดยเฉพาะ ซึ่งรถรุ่นแรกที่นำมาเปิดตัวในตลาดเมืองไทยนั้น ก็คือรถสไตล์อเนกประสงค์ รุ่น Aion Y Plus (ไอออน วาย พลัส) ที่เป็นการโยนหินถามทางและกำหนดราคาที่เหมาะสม จนในที่สุดก็ได้พบจุดที่ราคาตรงกับความคาดหวังของผู้บริโภคแล้ว นั่นก็คือเป็น รถระดับไม่เกินล้านบาทนั่นเอง!

ปัจจุบันรถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์จีน ได้รับการยอมรับเรื่องเทคโนโลยีที่ถูกพัฒนามากจนได้รับการยอมรับจากผู้ใช้ทั่วโลก สอดรับกับเทรนด์ตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่กำลังเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในประเทศไทย ซึ่งในปีที่ผ่านมามียอดจดทะเบียนเพิ่มขึ้นสูงถึง 76,366 คัน (เทียบกับปี 2565 ที่มีเพียง 9,678 คัน) แสดงให้เห็นว่าความต้องการด้าน Technology Professional และ Fashion ของผู้บริโภคผสมกันได้อย่างลงตัว

ด้วยเหตุนี้จึงเกิดปรากฎการณ์ยอดจองของ AION Y Plus 490 Premium ที่เพิ่มขึ้นมาก ขณะเดียวกันได้จัดเต็มฟังก์ชั่นใหม่ที่ได้รับการอัปเกรดเข้ามาอีก 24 รายการ สวนทางกับราคาจำหน่ายที่ปรับลดลง 100,000 บาท จากราคา 1,099,900 บาท เหลือ 995,900 บาท ส่งผลยอดจองภายในงาน Motor Expo 2023 ที่ผ่านมาทะลุ 4,568 คัน ยอดจองเกือบทั้งหมดมาจากรถเพียงรุ่นเดียวคือ AION Y Plus (รุ่น 490 Elite และ 490 Premium) ซึ่งจากยอดจองดังกล่าวมาจากการที่ AION Thailand มีการเปิดตัวรถรุ่นย่อยใหม่อย่าง 490 Premium ที่มาพร้อมกับออปชั่นและฟีเจอร์แบบจัดเต็ม รวมถึงกลยุทธ์การปรับลดราคาสำหรับรุ่น 490 Elite สะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคชาวไทยเปิดใจรับรถยนต์ไฟฟ้าจากประเทศจีนมากขึ้นตามลำดับ

นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา GAC AION สามารถทำลายสถิติยอดขายรถยนต์ 1,000,000 คัน ในเวลาที่เร็วที่สุดในโลก ซึ่งใช้เวลาเพียงแค่ 4 ปี 8 เดือน นับเป็นการเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยยอดขายที่เพิ่มขึ้นคือผลลัพธ์ที่ GAC AION คิดค้นเทคโนโลยีใหม่ๆ ขึ้นมาในช่วงหลายปีมานี้ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการวิจัยทั่วโลก การควบคุมต้นทุนการค้า รวมถึงระบบซัพพลายเชนและความสามารถรอบด้าน ด้วยโรงงานเทคโนโลยีอัจฉริยะระดับโลกกับวิธีการผลิตที่นำมาซึ่งคุณภาพและประสิทธิภาพในระดับสูง จนก้าวเข้าสู่ขั้นตอนการพัฒนาครั้งใหม่ภายใต้การขับเคลื่อนด้วยยอดขาย 1,000,000 คัน

สำหรับรถยนต์รุ่น AION Y Plus 490 Premium ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และใส่ใจถึงความต้องการของผู้บริโภคชาวไทยในทุกมิติ จนเป็นรถที่ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะการเพิ่มออปชั่นใหม่ล่าสุด 24 รายการ เช่น ระบบไฟสูงอัจฉริยะ, ประตูฝาท้ายระบบไฟฟ้าพร้อมระบบป้องกันการหนีบ, ระบบจ่ายไฟฟ้าออกสู่ภายนอก V2L กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ นอกจากนี้ระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะยังมีการอัปเกรดฟังก์ชั่นเพิ่มขึ้นถึง 12 รายการ ไม่ว่าจะเป็นระบบช่วยควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันทำงานจนถึงจุดหยุดนิ่ง (Adaptive cruise control with Stop&Go) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติอัจฉริยะ (Intelligent cruise assist) ระบบแจ้งเตือนก่อนการชนด้านหน้า (Forward collision warning) ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (Autonomous emergency braking) ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลนและระบบรักษารถให้อยู่ในเลน (Lane departure warning & Lane keeping assist) กล้องมองภาพแบบพาโนรามา 540 องศารอบตัวรถ และระบบอื่นๆอีกมากมาย

พรั่งพร้อมความสะดวกอีกขั้นกับระบบสั่งการด้วยเสียงภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เพียงแค่เริ่มต้นทักทาย “Hello Baby” แล้วพูดสั่งการตัวรถ เช่น สั่งเปิด-ปิด กระจกหน้าต่างหรือซันรูฟ ตัวระบบจะตอบสนองคำสั่งแบบเรียลไทม์ รวมถึงระบบชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สายที่ช่วยให้คุณสะดวกสบายมากขึ้น นอกจากนี้แอพพลิเคชั่นของ AION ยังถือเป็นอีกหนึ่งจุดเด่น ที่สามารถให้คุณควบคุมรถด้วยคำสั่งระยะไกล ทั้งการล็อครถ ค้นหาตำแหน่งรถ ตรวจสอบสภาพรถ ไปจนถึงการเปิด/ปิดแอร์เพื่อเตรียมพร้อมเดินทาง

และด้วยระยะฐานล้อที่ยาวถึง 2,750 มิลลิเมตร ส่งผลให้ห้องโดยสารกว้างขึ้น มีพื้นที่วางขาเบาะหลังถึง 1,020 มิลลิเมตร มากที่สุดในรถยนต์ไฟฟ้าคลาสเดียวกัน ด้านเบาะที่นั่งคนขับ และผู้โดยสารตอนหน้าสามารถปรับได้ 6 และ 4 ทิศทางด้วยระบบไฟฟ้าตามลำดับ เบาะหลังมีการติดตั้งพนักพิงศีรษะและที่วางแขนตรงกลาง ขณะเดียวกันเบาะหน้ายังสามารถปรับพับเอนราบกลายเป็นเตียงขนาดใหญ่ได้สบายๆ หรือจะพับเบาะหลังให้กลายเป็นพื้นที่เรียบบรรทุกของความจุรวมมากถึง 1,200 ลิตร รวมทั้งเพิ่มระบบระบายอากาศบริเวณเบาะผู้ขับขี่ นอกจากนี้ยังมีระบบไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสาร 32 เฉดสีที่สามารถปรับจังหวะได้ตามเสียงดนตรี รวมถึงระบบความบันเทิงตลอดการเดินทาง นอกจากนี้ยังเพิ่มความสะดวกสบายการขึ้นลงด้วยประตูเปิดกว้างเกือบ 90 องศา

อย่างไรก็ตามจุดเด่นจากการที่ AION Y Plus 490 Premium ใช้แพลตฟอร์มรถยนต์ไฟฟ้า AEP (แพลตฟอร์ม EV 100%) ซึ่งใช้ทีมนักวิจัยมากถึง 200 คน ด้วยเวลานานถึง 30 เดือนและใช้เงินลงทุน 15,000 ล้านบาท พร้อมด้วยเทคโนโลยี Magazine Battery ที่มีความปลอดภัยที่สุดในโลก ซึ่งผ่านการทดสอบความปลอดภัยขั้นสูงสุด นับเป็นสิ่งสำคัญที่ทาง AION ใช้เป็นอาวุธหลักของการเป็นผู้นำในการรักษายอดขายในประเทศจีนมาเป็นระยะเวลานาน เพราะไม่เพียงแค่สร้างความมั่นคงให้กับแบรนด์ AION ในตลาดเท่านั้น ในขณะเดียวกันยังทำให้ผู้บริโภคได้รู้จักกับแบรนด์ AION มากขึ้นอีกด้วย

สำหรับแพลตฟอร์มรถยนต์ไฟฟ้า AEP นั้นมีรูปแบบการจัดวางแบตเตอรี่ในแนวราบ ใช้พื้นที่ระยะฐานล้อที่ยาวทำให้จัดเรียงชุดแบตเตอรี่ได้มากขึ้น ทำให้สามารถวิ่งได้ระยะทางไกลยิ่งขึ้น ระยะโอเวอร์แฮงค์หน้าและหลังสั้น ระยะฐานล้อยาว ส่งผลให้มีพื้นที่ภายในกว้างขวางกว่ารถในกลุ่มเดียวกัน และมีอัตราส่วนน้ำหนักของรถด้านหน้าและด้านหลัง 50:50 แบบเดียวกับรถสปอร์ต ทั้งยังมีสมรรถนะช่วงล่างที่ดีเยี่ยม ส่งผลให้การควบคุมรถมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

ด้านการออกแบบโครงสร้างตัวรถนั้น มีการใช้โครงสร้างรถแบบชิ้นเดียว มีความทนทานแข็งแรงสูง ทนแรงอัดได้ดี ทำให้มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น รองรับการติดตั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ของระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ ให้คุณเพลิดเพลินไปกับเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพและฉลาดยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม แม้ว่า AION Y Plus 490 Premium เป็นรถอีวี ที่เปี่ยมด้วยเทคโนโลยีและดีไซน์อันเป็น Iconic พร้อมด้วยราคาที่ให้ความคุ้มค่าแล้ว AION ยังมุ่งเน้นบริการหลังการขายเพื่อให้ลูกค้าใช้รถอย่างไร้ความกังวล ด้วยการรับประกันที่เหนือกว่า และมอบความสะดวกสบาย โดยมีคลังศูนย์กลางอะไหล่เปิดให้บริการสามารถส่งอะไหล่ไปได้ทั่วประเทศไทยภายใน 24 ชั่วโมง อีกทั้งยังขายอะไหล่ในราคาที่จับต้องได้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความสะดวกสบายในการบริการลูกค้ามากขึ้นอีกขั้น

จากนี้ไปตลาดรถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์จีนในเมืองไทย จะมีการแข่งขันอย่างดุเดือด ดังนั้นการเข้ามาของ GAC AION ที่กำลังเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าชาวไทย ด้วยการลงทุนสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งการก่อสร้างเฟสแรกจะแล้วเสร็จภายในเดือนกรกฎาคมของปีนี้ และปีนี้มีแผนที่จะเพิ่มโชว์รูมจำนวน 70 แห่ง ยิ่งตอกย้ำความเชื่อมั่นให้รถยนต์ไฟฟ้า “AION” ที่มีความพร้อมทั้งการแข่งขันด้านราคา คุณภาพ และบริการที่ประทับใจ เพราะสิ่งที่ GAC AION ยังคงเน้นย้ำอยู่เสมอก็คือ “ลูกค้าคือคนสำคัญ” และ AION มีความตั้งใจอย่างแน่วแน่ ในการขึ้นเป็นแบรนด์รถไฟฟ้าอันดับ 1 ของประเทศไทย