นายอนุชา หอยสังข์ นายอำเภอท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งจาก นายวันชัย โกแสง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ต.ตะคร้ำเอน อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ว่ามีสัตว์ไม่ทราบชนิดกัดวัวของชาวบ้านได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดที่คอกวัวริมคลองท่าสาร-บางปลา หมู่ที่ 3 ต.ตะคร้ำเอน จึงรายงานให้ นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผวจ.กาญจนบุรีทราบ จากนั้นได้สั่งการให้ นายธนกร สว่างแก้ว ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง นำกำลัง เจ้าหน้าที่ อส.ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง เบื้องต้นพบว่า คอกวัวดังกล่าวเป็นของ นายทวียศ สานุ อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 49/3 หมู่ที่ 2 ต.ตะคร้ำเอน ซึ่งได้มาสร้างคอกเลี้ยงวัวประมาณ 30 ตัว อยู่ริมคลองท่าสาร-บางปลา

โดย นายทวียศ เล่าว่า เมื่อประมาณ 4-5 วันก่อน ตนสังเกตพบวัวที่อยู่ในคอกตัวหนึ่งมีอาการผิดปกติ ไม่ยอมกินอาหารมา 2 วัน พอตรวจดูที่ตัวของวัวพบว่ามีบาดแผลลักษณะคล้ายเขี้ยวเป็นแนวยาว และเป็นวงหลายเขี้ยวบริเวณขาหลังซ้าย ไม่ทราบว่าเป็นรอยกัดของสัตว์ชนิดใด อย่างไรก็ตามเชื่อว่าอาจจะรอยเขี้ยวของจระเข้ เนื่องจากเป็นสัตว์ชนิดเดียวที่สามารถกัดกินวัวได้ที่เลี้ยงอยู่ริมคลองได้ ทั้งนี้ตั้งแต่เลี้ยงวัวมานานกว่า 50 ปี ไม่เคยพบเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาเคยพบเห็นจระเข้ลอยโผล่ขึ้นมาให้เห็นเพียงส่วนหัวก่อนที่จะมุดน้ำหายไป

สำหรับการตรวจสอบบาดแผล ทางเจ้าหน้าที่ประมงได้ตรวจสอบแล้ว แต่ยังไม่ลงความเห็นว่าร่องรอยบาดแผลที่เกิดจากคมเขี้ยวของจระเข้ เนื่องจากบาดแผลเกิดมานานหลายวัน ทั้งนี้ทางประมงจังหวัดกาญจนบุรีจะเดินทางมาตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง ขณะที่นายอำเภอท่ามะกา ได้สั่งการให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ลงพื้นที่ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนราษฎรในพื้นที่ ต.ตะคร้ำเอน ให้ระมัดระวังอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น และห้ามลงหาปลาบริเวณคลองท่าสาร-บางปลา ตั้งแต่ประตูน้ำถึงสะพานข้ามคลองสำนักคร้อ เพื่อป้องกันอันตราย นอกจากนี้ยังได้ประสานทีมไกรทองแห่งลุ่มน้ำตาปี ผู้เชี่ยวชาญด้านการจับจระเข้ เข้ามาตรวจสอบภาพถ่ายรอยเท้า และติดตามไล่ล่าจรเข้ตัวดังกล่าวในวันที่ 30 ก.ย.นี้ อีกทั้งจะมีการวางแผนร่วมกับ “ทีมมือปราบอสรพิษ” เพื่อออกจับจระเข้โดยใช้เรือสำรวจค้นหาเวลากลางคืนให้ได้ตัวโดยเร็วต่อไป.