เมื่อวันที่ 24 มี.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ยงเกียรติ  มนปราณีต ผบช.ตชด., พล.ต.ต.จักรเพชร เพชรพลอยนิล ผบก.ตชด.ภาค 1, พ.ต.อ.อัคราวัส สีห์ธนบุญอุบล ผกก.ตชด.14  เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม กองร้อย ตชด.146 นำโดย พ.ต.ท.ณัฐพล พลอยท้วม ผบ.ร้อย ตชด.146 พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ฉก.จงอางศึก และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายเข้าทางช่องทางธรรมชาติ (ช่องสิบศพ) จึงได้จัดกำลังเฝ้าสังเกตการณ์ในจุดเป้าหมาย ต่อมาเวลาประมาณ 01.00 น. ได้พบบุคคลต้องสงสัย (ไม่ทราบชื่อ) เดินออกมาจากชายป่ายางพร้อมคนติดตามจำนวนประมาณ 10-15 คน เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้สะกดรอยติดตามถึงบริเวณหลังบ้านไม่มีเลขที่ หมู่ 3 ต.เกาะหลัก อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ และเวลาต่อมาพบรถกระบะสีขาว ตามที่สายลับแจ้งขับขี่มาตามเส้นทางและก่อนถึงบ้านหลังดังกล่าวได้ปิดไฟด้านหน้ารถ มีเหตุพิรุธ จึงน่าเชื่อว่ารถคนดังกล่าวเข้ามารับแรงงานต่างด้าว

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงเข้าแสดงตัวเข้าจับกุม พบของกลางยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 98 เม็ด, อาวุธปืนพกสั้นกึ่งอัตโนมัติ ยี่ห้อ Barretta  ขนาด 9 มม. พร้อมเครื่องกระสุน จำนวน 10 เม็ด บรรจุกระสุนในลำเพลิงพร้อมใช้ ภายในรถกระบะซึ่งมีนายวิศณุ  เป็นผู้ขับขี่และยอมรับสิ่งของผิดกฎหมายดังกล่าวเป็นของตนเอง พบ น.ส.ขนิษฐา และ นายบัญชา กำลังเตรียมนำแรงงานต่างด้าวขึ้นรถกระบะ พร้อมพบแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย  (สัญชาติเมียนมา) อีกจำนวน 13 คน เป็นชาย 11 คนและเป็นหญิง 2 คน

โดยจากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ให้การรับสารภาพว่า เป็นคนนำพาแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายจริง โดยแบ่งหน้าที่กันทำโดยนายบัญชา  เป็นคนเดินพาแรงงานต่างด้าวออกจากบนเขาต่อจากคนเมียนมา ได้ค่าจ้างคนละ 500 บาท นายวิศณุ และ น.ส.ขนิษฐา เป็นคนดูต้นทางว่ามีเจ้าหน้าที่เข้ามาในพื้นที่หรือไม่  โดยได้ค่าจ้างหัวละ 300 บาท จากการสอบถามแรงงานต่างด้าวโดยผ่านล่ามแปลจะเสียค่าจ้างในการเดินทางเข้าประเทศไทยคนละ 18,000 บาท ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้นำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป