นายสง่า เรืองวัฒนกุล นายกสมาคมผู้ประกอบธุรกิจถนนข้าวสาร เปิดเผยว่า ถนนข้าวสารเตรียมจัดงานสงกรานต์อย่างยิ่งใหญ่ ระหว่างวันที่ 13-15 เม.ย. 67 พร้อมขยายพื้นที่เล่นน้ำให้ใหญ่ขึ้น รอบเขตพระนคร ตามนโยบายของนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หรือรอบถนนข้าวสาร ทั้งถนนไกรศรี ถนนตะนาว ถนนรามบุตรี ถนนจักรพงษ์ ซึ่งเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่สามารถเดินทะลุกันได้ ทำให้รองรับนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น เกิดการกระจายรายได้ไปพื้นที่โดยรอบ ไม่กระจุกตัวอยู่แค่ในถนนข้าวสาร และขนทัพรถแห่มาสร้างความสุขในพื้นที่ เพื่อนำเสนอซอฟต์พาวเวอร์ของไทย ให้นักท่องเที่ยวต่างชาติได้สัมผัส ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ขนรถแห่มาไว้กลางเมือง

ทั้งนี้ หลังจากยูเนสโกได้ประกาศให้สงกรานต์ของไทย เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ เชื่อว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวและเล่นน้ำในข้าวสารเพิ่มขึ้น เพราะการรับรองของยูเนสโก เหมือนเป็นตราประทับให้ต่างชาติอยากมาสัมผัสสงกรานต์ของไทย คาดการณ์ว่าในช่วงการจัดงานตลอด 3 วัน จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเล่นน้ำในพื้นที่ไม่น้อยกว่า 600,000 คน หรือเฉลี่ยวันละ 200,000 คน สร้างรายได้สะพัดรวม 300 ล้านบาท

สำหรับอัตราการจองห้องพักของโรงแรมหนึ่งเดือนก่อนสงกรานต์ ขณะนี้ยังต่ำกว่าช่วงปี 62 ก่อนการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่อัตราการจองห้องพักราว 70% เปรียบกับขณะนี้ ที่มีอัตราการจองห้องพักอยู่เพียง 50% แต่เชื่อว่าหลังจากนี้ จะมียอดการจองห้องพักเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ในช่วงสงกรานต์ในช่วงปี 62 อัตราการจองห้องพักในพื้นที่ถนนข้าวสาร เต็มทุกโรงแรม และเชื่อว่าสงกรานต์ปีนี้ จะมีการเข้าพักเต็ม 100% เช่นเดียวกัน จากจำนวนห้องพักปัจจุบันที่มีอยู่ 8,000-10,000 ห้อง

นายสง่า กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวเริ่มฟื้นกลับมาแล้ว โดยนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวยุโรป รองลงมาเป็นกลุ่มตลาดเอเชียโดยเฉพาะจีน ญี่ปุ่น ที่กำลังเติบโตอย่างน่าสนใจและมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นจากช่วงปี 61 เอเชียมีสัดส่วน 20% ส่วนอีก 80% เป็นตลาดยุโรป แต่ล่าสุดในช่วงปี 66 ที่ผ่านมา ตลาดเอเชียเติบโตขึ้น คิดเป็นสัดส่วน 30% และยุโรป 70% ซึ่งจากจำนวนนี้เกิดจากตลาดเอเชีย เกิดการเติบโตต่อเนื่องอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่ตลาดยุโรปยังคงอัตราส่วนเท่าเดิม แต่เนื่องด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในถนนข้าวสารเพิ่มขึ้น จึงทำให้ส่วนแบ่งการตลาดของเอเชียเพิ่มขึ้น นอกจากนั้นยังมีสิงคโปร์ มาเลเซีย เวียดนาม