เมื่อวันที่ 29 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเขตพื้นที่จังหวัดกำแพงเพชร เกษตรกรชาวนาและพ่อค้าคนกลาง ต่างบรรทุกข้าวเปลือกไปขายให้กับโรงสี โดยเฉพาะที่โรงสี สิงห์โตทองไรซ์คอร์ปอเรชั่น จำกัด เลขที่ 99/1 หมู่ที่ 2 ตำบลธำมรงค์ อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองกำแพงเพชร 33 กม. พบว่าที่ลานหน้าโกดังโรงสี มีรถบรรทุกพ่วง รถบรรทุกสิบล้อ รถบรรทุกขนาดเล็ก บรรทุกข้าวเปลือกรอตรวจความชื้นกันนับ 100 คัน

นายมนต์ชัย รุ่งชาญชัย ผู้ประกอบการเจ้าของโรงสี เปิดเผยว่า รถบรรทุกข้าวเปลือกมาจอดรอที่ลานเพื่อจำหน่ายให้กับโรงสีกันในวันนี้จำนวน 2,600 ตัน โดยมาจอดรอตั้งแต่ช่วงกลางคืนที่ผ่านมา เพื่อรอคิวตรวจรับซื้อข้าว ทั้งชั่งน้ำหนักและตรวจความชื้น โดยราคา ณ วันที่ 28 มี.ค. 67 ข้าวเปลือกที่มีความชื้น 15 เปอร์เซ็นต์ ราคาอยู่ที่ 11,500 บาท ข้าวความชื้น 25 เปอร์เซ็นต์ มีราคาอยู่ที่ 10,500 บาท และข้าวความชื้น 30 เปอร์เซ็นต์ มีราคา 10,000 บาท ถือว่าสถานการณ์ข้าวในปีนี้มีราคาดีขึ้นในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเกษตรกรได้เริ่มเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวเปลือกนาปรังมาตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม 2567 และจะเก็บเกี่ยวไปจนถึงปลายเดือนเมษายน 67 ซึ่งในจังหวัดกำแพงเพชรนั้น มีพื้นที่เพาะปลูกข้าวกว่า 1,630,000 ไร่ มีผลผลิตรวมทั้งปีกว่า 980,000 ตัน

นายวิลัยรัก นุสนธิ์ อายุ 48 ปี เกษตรกรชาวนาจังหวัดกำแพงเพชร ที่นำข้าวมาขายกับโรงสี เปิดเผยว่า ตนทำนาอยู่กว่า 200 ไร่ ซึ่งการเก็บเกี่ยวมีทั้งข้าวที่ได้อายุและข้าวที่ยังไม่สุกเต็มที่ ส่วนสาเหตุที่ต้องเร่งเก็บเกี่ยว เนื่องจากการพยากรณ์อากาศที่จะเกิดทั้งลมทั้งฝนตกในอีกไม่นานนี้ ทำให้เกษตรกรชาวนาต่างเร่งเก็บเกี่ยวพร้อมกัน จนทำให้โรงสีหลายแห่งเต็มไปด้วยเกษตรกรที่นำเข้าไปจำหน่าย รวมทั้งโรงสีแห่งนี้ ที่ตนได้ขายข้าวให้เป็นประจำในทุกฤดู เพราะให้ความเป็นธรรมกับการซื้อขายกับเกษตรกร พร้อมทั้งเปิดเผยในราคารับซื้อตามความชื้น ก็ต้องยอมรับว่าข้าวที่เก็บเกี่ยวมีความชื้นสูง ราคาก็ต้องเป็นไปตามกลไก ซึ่งยอมรับกันได้ ไม่ได้ถูกโรงสีกดราคาแต่อย่างใด ส่วนข้าวที่ได้อายุ ก็ขายได้ตันละหมื่นกว่าบาท จึงพอใจกับการทำนาในรอบนี้ ซึ่งหลังเก็บเกี่ยวข้าวขายหมดแล้ว เตรียมพร้อมที่จะลงมือทำนาปลูกข้าวในรอบต่อไป

ทั้งนี้ สถานการณ์ราคาข้าวเปลือกสูงขึ้น คาดว่าเกิดจากประเทศอินเดียหยุดส่งออก และประเทศเวียดนามผลผลิตข้าวลดลง ทุกประเทศต้องหาความมั่นคงทางอาหาร จึงเก็บข้าวไว้กับประเทศของตนเอง ส่งผลให้สถานการณ์ข้าวในปีนี้มีราคาสูงขึ้นนั่นเอง.