เมื่อวันที่ 31 มี.ค. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย พร้อมคณะเดินทางด้วยรถไฟขบวน 21 ด่วนพิเศษ ไปสถานีรถไฟนครราชสีมา เพื่อตรวจราชการติดตามโครงการวางท่อน้ำดิบจากเขื่อนลำตะคองมายังโรงกรองน้ำบ้านมะขามเฒ่า และจุดสูบน้ำแรงดันต่ำโนนไม้แดง อ.เฉลิมพระเกียรติ เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภคและบริโภค ให้ประชาชนใน จ.นครราชสีมา โดยมี นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าจังหวัดนครราชสีมา และพล.ต.ต.ณรงค์ฤทธิ์ ด่านสุวรรณ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา ให้การต้อนรับ

นายอนุทิน เปิดเผยว่า โครงการที่มาตรวจเยี่ยมในวันนี้ตนได้เซ็นลงนามแล้วเป็นโครงการที่มีการเรียกร้องให้เร่งดำเนินการ เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตน้ำประปาให้เพียงพอต่อความต้องการใช้ของประชาชนในเทศบาลนครราชสีมา และพื้นที่ อปท.ใกล้เคียง ไปจนถึงลดการสูญเสียน้ำในระบบท่อส่งน้ำ และบริหารจัดการน้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุด เป็นไปเพื่อรองรับการขยายตัวด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา และลดปัญหาความขัดแย้งของประชาชนในพื้นที่ต้นน้ำและปลายน้ำ นี่คือโครงการที่มีประโยชน์มหาศาล โครงการนี้อนุมัติแล้ว ตนเซ็นเอง มันมีการเร่งรัดขึ้นมาพอสมควร และเห็นว่ามีประโยชน์ต้องเร่งทำ การจัดหาน้ำประปาเทศบาลโคราชงบประมาณ 2,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นงบที่เทศบาลออกครึ่งหนึ่งรัฐออกครึ่งหนึ่ง วันนี้จึงลงพื้นที่มาดูเพื่อเร่งรัดการก่อสร้าง เนื่องจากที่ผ่านมาการก่อสร้างของกระทรวงมหาดไทย บางทีล่าช้านานเกินไปประชาชนได้แต่รอ แต่มาในยุคนี้มันจะไม่เกิดขึ้น เพราะงานใดก็ตามของกระทรวงหมาดไทย มันทำเพื่อประชาชนยิ่งเร็วก็ยิ่งดี

นายอนุทิน กล่าวว่า เราเห็นแล้วว่ามีการรั่วไหลของน้ำ ที่สูญไปอย่างเปล่าประโยชน์ ถ้าตีเป็นเงินก็มหาศาล ตรงนี้ จะให้กรมโยธาฯ มาดูแล้วว่าจะเก็บน้ำ ได้อย่างไร วันนี้ เรามี ประธานคณะกรรมการการการประปาส่วนภูมิภาค มาอยู่กับเราแล้ว ก็ต้องไปช่วยกันแก้ไข ไฟฟ้า มีปัญหาไหม ผมก็มีประธานคณะกรรมการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคมาอยู่กับผมตรงนี้แล้วเช่นกัน มีอะไร บอกท่านเลย บางอย่าง ผมมองไปที่โซล่าเซลล์เลย ที่จะย้ำคือการประปาส่วนภูมิภาคมีภารกิจที่สำคัญคือภายใน 2 ปีนี้ ประชาชนต้องมีน้ำดื่มฟรี เราลดราคาน้ำดื่มไม่ได้ แต่เราจัดหาน้ำดื่มฟรีมาให้ประชาชนได้ รับรองว่าจะช่วยแบ่งเบาภาระประชาชนแน่นอน

จากนั้น นายอนุทิน ได้มีโอกาสพบปะกับอาสาสมัครสาธารณสุข หรืออสม.ที่มาต้อนรับ ก่อนจะกล่าวทักทายว่า ขอแสดงความยินดีที่ทุกท่านได้ค่าป่วยการเพิ่มเป็น 2,000 บาทต่อเดือน ความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่น แน่นอนว่าทุกท่านทำงานไม่ได้หวังเรื่องเงินเรื่องทอง แต่ท่านพยายามอย่างยิ่งในการดูแลคนไทยในช่วงโควิดระบาด ถ้าไมได้พวกท่าน กระทรวงสาธารณสุขไฟไหม้ไปแล้ว ท่านช่วยประคองระบบสาธารณสุขของไทย กระนั้นถึงท่านจะทำด้วยใจไม่หวังสิ่งตอบแทน แต่เรามองว่าเราต้องตอบแทนท่านบ้าง เป็นที่มาของค่าป่วยการที่เพิ่มขึ้น เลยมีการผลักดันมาตั้งแต่รัฐบาลก่อนจนมาสำเร็จในรัฐบาลนี้ วันนี้ไม่มีโควิด แต่งานของพวกท่านไม่ได้ลดไปเลย ท่านเป็นหมอคนแรก ท่านเป็นมดงานในระบบสุขภาพ ตอนนี้ถ้าเทียบอัตราส่วน อสม.หนึ่งคนต้องดูแลคนไทยหลายสิบคน ค่าป่วยการ 2,000 บาท ถือว่าคุ้มยิ่งกว่าคุ้ม