ในส่วนของฮอลล์แยก อันเป็นฮอลล์ที่อยู่บริเวณอาคารจอดรถนั้นเป็นพื้นที่ของเหล่า ซูเปอร์คาร์ ที่หายาก อาทิ แลมโบกินี คุนทาช (Lamborghini Countach) รุ่นล่าสุดของ อภิมหาเศรษฐีหนุ่ม “คิม พรประภา” และรถของเขาอีกหลายคัน นอกจากนั้นยังมีสุดยอดความเร็วจากค่ายแมคลาเรน อย่าง แมคลาเรน สปีดเทล (McLaren Speedtail) ที่ทำความเร็วปลายได้ถึง 400 กิโลเมตร/ชั่วโมง รวมถึงเหล่าเฟอร์รารี่คลาสสิคอีกจำนวนมาก และสุดยอดสปอร์ตโปรโตไทพ์จากญี่ปุ่น อย่างค่าย ทอมมี่ไครา (Tommykaira)มาจัดแสดงอีกด้วย
ส่วนรถที่เตะตาเอามากๆนั้น ก็คือรถ สีฟ้าสลับเหลือง ที่จอดอยู่หน้าฮอลล์ แน่นอนว่าสำหรับคนรักรถแล้ว มองเห็นสีนี้ย่อมต้องนึกถึงรถของตำนานแห่งความเร็วของประเทศไทย อย่าง “พ.พีระ” , “พีระ เจ้าดาราทอง” หรือ “Prince Bira” พระองค์เจ้าพีระพงศ์ภาณุเดช พระโอรสใน “สมเด็จพระราชปิตุลาบรมพงศาภิมุข เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช” พระราชโอรสในพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 4 และเป็นพระอนุชาของในหลวง รัชกาลที่ 5 นั่นเอง
ชื่อเสียงเรื่องความเร็วของ พ.พีระ นั้นฝรั่งเองต่างยกนิ้วให้ ท่านเป็น หนึ่งในเจ้าแห่งความเร็วของโลก ในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่สอง จากการได้แชมป์โลกความเร็วทางเรียบ 3 สมัย นั่นเอง และชื่อของสนามแข่งรถ “พีระเซอร์กิต” แห่งเมืองพัทยา ก็ตั้งขึ้นตามพระนามของพระองค์
ทีมแข่งของพระองค์ท่านนั้น มีชื่อว่าทีม “หนูขาว” (White Mouse) และรถแข่งนั้นมีสีประจำทีมเป็นสี “ฟ้าสลับเหลือง” อันเป็นสีตัวแทนของประเทศไทย (ในยุคนั้นรถแข่งของแต่ละชาติใช้สีแตกต่างกัน อาทิ ฝรั่งเศสใช้สีฟ้า อิตาลีใช้สีแดง อังกฤษใช้สีเขียว อเมริกาใช้สีขาวสลับน้ำเงิน ส่วนไทยนั้นใช้สี ฟ้าสลับเหลือง) โดยเหล่ารถแข่งที่ท่านเลือกใช้มีด้วยกันหลากหลายแบรนด์ อาทิ มาเซราติ หลากหลายรุ่น และรถแข่งน้ำหนักเบา แบรนด์ ERA หรือ “English Racing Automobiles” จากประเทศอังกฤษ 3 คันที่คนรักประวัติศาสตร์รถยนต์ไทยต่างจดจำชื่อได้ 2 คันแรกนั้นมีชื่อว่า โรมูสุส (Romulus) รีมุส (Remus) อันเป็นชื่อสองพี่น้องที่สร้างกรุงโรมขึ้น และ คันสุดท้ายคือ ERA รุ่น R12C ที่พระองค์ตั้งชื่อว่า “หนุมาน” ซึ่งหนุมานนี้ได้เกิดอุบัติเหตุเสียหายในปี 1939 แต่พระองค์ได้ทรงซ่อมแซมกลับขึ้นมาใหม่ และพระราชทานนามให้กับรถที่ซ่อมเสร็จว่า “หนุมาน 2” เพราะหนุมาน ลูกพระพาย ฆ่าไม่ตาย เพียงแค่มีลมพัดผ่านก็สามารถฟื้นคืนชีพได้!
รถแนวคิดสี “ฟ้าสลับเหลือง” ที่ตั้งอยู่หน้าฮอลล์คันนี้ มีชื่อว่า “หนุมาน 3” (Hanuman 3) เป็นผลงานพัฒนาของบริษัท SRA (Siam Racing Automobiles) ที่บุตรชาย ของ พ.พีระ คือ พ.ท.ม.ร.ว พีรานุพงศ์ ภาณุพันธ์ ต้องการสร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงครบรอบชาตกาล 110 ปีของ ท่าน พ.พีระ โดยหนุมาน 3 นี้คือ สายลมที่ขอฟื้นตำนานของรถคนไทยขึ้นมาอีกครั้ง
รถ SRA หนุมาน 3 นี้สร้างขึ้นบนแพลทฟอร์มรถไฟฟ้า ที่ได้วิศวกรที่มีประสบการณ์ทั้งจาก เฟอร์รารี่ เทสล่า โตโยต้า และจากัวร์ แลนด์โรเวอร์ มาร่วมพัฒนา โดยสมรรถนะเบื้องต้นที่เปิดเผยก็คือ ใช้มอเตอร์ 577 แรงม้ามีแรงบิด 525 นิวตันเมตร ทำงานร่วมกับแบตเตอรี่ความจุ 60 กิโลวัตต์ชั่วโมง แต่มีน้ำหนักเบาเพียง 800 กิโลกรัม ซึ่งถือว่าเบาเหลือเชื่อ โดยหากสงสัยว่ารูปลักษณ์สัดส่วนของรถ หนุมาน 3 นั้นเป็นเช่นไร ก็ต้องบอกว่าคล้ายคลึงกับสัดส่วนของสปอร์ตล้อเปิดแบบ 2 ที่นั่งของอังกฤษอย่าง “เคเตอแรม 7” (Caterham 7) มากดังนั้นในเรื่องรูปลักษณ์ ถือว่าสอบผ่าน
ในขั้นแรกนี้ถือว่าเป็นการระดมทุน โดยทาง SRA ตั้งเป้าไว้ว่าจะผลิตขึ้นมา 110 คัน โดยมีราคาเริ่มต้นคันละ 6 ล้านบาท โดยรถคันแรกจะสามารถผลิตเสร็จและทดลองขับได้ใน 2 ปีข้างหน้า และจะสามารถรับรถได้ในอีก 1-2 ปีถัดไป งานนี้อ้วนซ่ามองว่าถ้าจะทำรถพลังไฟฟ้าให้แข่งได้ ไม่หมู ระบบระบายความร้อนต้องสุดยอดจริงๆ ไม่งั้นวิ่งไปรอบเดียวน้อคแน่ๆ ต้องรอพระพายมาระบายความร้อนก่อนพะย่ะค่ะ!.