นายประสิทธิ์ สิงห์ชา เกษตร จ.สมุทรสงคราม เปิดเผยว่าปัจจุบัน จ.สมุทรสงครามมีเกษตรกรทำนาเกลือใน 2 ตำบลคือ ต.ลาดใหญ่ และ ต.บางแก้ว จำนวน 156 ครัวเรือน 273 แปลง รวมพื้นที่ 5797 ไร่ คาดว่าจะมีผลผลิต 74,100 ตัน โดยปริมาณเกลือที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากปีนี้ฤดูแล้งยาวนานขึ้น เกษตรกรจึงผลิตเกลือได้มากขึ้น ทำให้เกลือล้นตลาด ส่งผลให้ชาวนาเกลือขายเกลือได้ต่ำกว่าต้นทุน กอร์ปกับเกลือสมุทรราคาไม่แน่นอนจึงทำให้โรงงานต่างๆที่จ้องใช้เกลือและเคยเป็นลูกค้ารายใหญ่ประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์จัดซื้อลดลง จึงทำให้เกษตรกรทำนาเกลือได้รับผลกระทบ

สำนักเกษตร จ.สมุทรสงคราม จึงมีแผนที่จะเพิ่มมูลค่าเกลือสมุทรแม่กลองซึ่งเป็นเกลือที่มีสารไอโอดินเหมาะแก่การนำไปบริโภค เช่น ส่งเสริมการท่องเที่ยวหมู่บ้านเกลือทะเลเพื่อสร้างรายได้ให้ชุมชน โดยคาดว่านักท่องเที่ยวที่มาเยือนจะซื้อเกลือกลับบ้านในราคาที่ชาวนาเกลือเป็นผู้กำหนด ทำให้ลดการพึ่งพาการขายเกลือที่ถูกกำหนดราคาโดยพ่อค้าคนกลางอย่างเดียว ที่ผ่านมาได้จัดเวทีชุมชนในพื้นที่ ต.บางแก้วเพื่อรับฟังความเห็นจากชาวชุมชนในการมีส่วนร่วมเพื่อสร้างการท่องเที่ยวโดยชุมชนอย่างยั่งยืนแล้ว ชาวชุมชนส่วนใหญ่เห็นด้วยอย่างยิ่ง

นายประสิทธิ์ สิงห์ชา เกษตร จ.สมุทรสงคราม กล่าวว่าหากเกษตรกรประสบภาวะขาดทุนอยู่บ่อยๆ เกษตรกรอาจจะเลิกทำนาเกลือหันไปประกอบอาชีพอื่น อาชีพทำนาเกลือซึ่งเป็นวิถีชีวิตดั้งเดิมของชาวสมุทรสงครามที่ปัจจุบันก็เหลือน้อยแล้วอาจจะสูญหายไป อย่างไรก็ตามการที่เกลือสมุทรแม่กลองได้ขึ้นทะเบียนเป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือ GI กับกรมทรัพย์สินทางปัญญาแล้วนั้น จึงเป็นการการันตีคุณภาพและความเป็นเอกลักษณ์ของเกลือสมุทรแม่กลอง ทำให้มีผลต่อการสร้างมูลค่าเพิ่มและขยายตลาด จึงให้ความรู้เรื่องความสำคัญของตราสัญลักษณ์ GI พร้อมเชิญชวนชาวนาเกลือให้ขึ้นทะเบียนเกษตรกรเพื่อมีสิทธิ์รับการช่วยเหลือถ้าหากมีการช่วยเหลือใดๆ จากทางราชการ เช่น การประกันราคาชดเชยรายได้ โดยเฉพาะผู้ที่เช่าที่ดินทำนาเกลือซึ่งเป็นส่วนใหญ่ ต้องมาขึ้นทะเบียนพร้อมระบุจำนวนพื้นที่เช่าให้ตรงกับความเป็นจริงด้วย