กรณีเพจ “ข่าวท้องถิ่นเพชรบูรณ์” ได้โพสต์ข้อความว่า “อาจารย์แจ้งมา ที่เพจลงก่อนหน้านี้ ขออนุญาตแจ้งข่าววัดพระแก้ว ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ มีขโมยเข้ามางัดฝาปิดรางน้ำของทางวัดพระแก้ว แล้วก็งัดเอาเหล็กที่รองฝาปิดรางน้ำที่มีขนาด 4 นิ้วตัวแอล เพื่อนำไปจำหน่าย และจากนั้นก็ได้ทุบฝาปิดรางน้ำเพื่อเอาเหล็กไปขาย คณะสงฆ์ของวัดพระแก้วจับได้ ในวันต่อมาผู้ที่ขโมยเหล็กยังกล้าและยังมาตำหนิ ยังมาว่ากล่าวคณะสงฆ์ของทางวัดพระแก้วของเรา อันนี้เป็นตัวอย่างให้ได้ดูให้ได้เห็นให้ได้ชมกัน ก็ต้องรอเจ้าหน้าที่บ้านเมืองต่อไปว่าจะทำอย่างไรต่อไป ผู้ร้ายกล้าทำถึงขนาดนี้ นี่คือเพชรบูรณ์ของเราหรือ แล้วประชาชนตาดำๆ จะทำอย่างไรได้ ขนาดวัดแท้ๆ เขายังมาทำถึงขนาดนี้ได้ และต่อไปชาวบ้านจะทำอย่างไร อันนี้ฝากไว้ให้เจ้าหน้าที่บ้านเมืองนะครับ ขอถามตัวโตๆ ว่าคนตาบอดก็ตามคนพิการก็ตามทำความผิดไม่ผิดกฎหมายหรือฝากแชร์ไปเยอะๆในเพชรบูรณ์เรา”

พร้อมกันนี้ก็ได้โพสต์คลิปวีดีโอหญิงวัยกลางคนคนหนึ่งกำลังต่อว่าพระวัดพระแก้ว ต.ในเมือง ที่นำรูปคนร้ายก่อเหตุขโมยเหล็กและฝาท่อระบายน้ำข้างวัดไปโพสต์ในเฟซบุ๊ก โดยหญิงคนดังกล่าวได้อ้างว่าชายที่ก่อเหตุเป็นคนตาบอด ประกอบอาชีพนวดอยู่ที่วัดแห่งหนึ่งในตัวเมืองเพชรบูรณ์ และไม่รู้ไม่เห็นในการขโมยดังกล่าว ทำให้ได้รับความเสียหาย ไม่มีลูกค้ามานวด ด้านพระที่อยู่ในคลิปก็ได้แจ้งว่า จะตาบอดหรือไม่ไม่รู้ แต่มาก่อเหตุขโมยก็ต้องรับโทษตามกฎหมาย ให้ไปแก้ตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเอง

ภายหลังจากที่คลิปวีดีโอและข้อความดังกล่าว เผยแพร่ออกไป หลายคนก็เข้ามาแสดงความห่วงใยพระ เพราะเกรงว่าคนร้ายจะมาทำอันตรายพระ พร้อมทั้งขอร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจออกไปตรวจพื้นที่ภายในวัดด้วย เพราะเกรงว่าจะมีการก่อเหตุซ้ำหรืออาจจะทำร้ายพระก็เป็นได้

เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เมื่อวันที่ 4 เม.ย. ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ พบว่าเป็นทางระบายน้ำทำด้วยปูน ฝาด้านบนปิดทับด้วยซีเมนต์สำเร็จรูป ระยะทางกว่า 1 กิโลเมตร แต่ถูกคนร้ายงัดขึ้นมาจนหมด จากนั้นได้ทุบฝาปิดเพื่อเอาเหล็กนำไปขาย นอกจากนั้นยังได้งัดเอาขอบรางเหล็กรูปตัว L ขนาด 4 นิ้ว ออกไปจนหมด และนอกจากนั้นยังพบว่าคนร้ายได้มาแอบทำที่พักอยู่หลังกำแพงกั้นแม่น้ำป่าสักที่ติดกับวัด เพื่อใช้เป็นที่สำหรับทุบฝาปิดรางน้ำด้วย

พระครูศรีพัชรบวร เจ้าอาวาสวัดพระแก้ว เปิดเผยว่า รางน้ำดังกล่าวเป็นรางน้ำที่กรมชลประทานได้มาสร้างไว้เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วม เป็นทางระบายน้ำจากวัดลงสู่แม่น้ำป่าสัก สำหรับเหตุการณ์นั้นมี 2 เหตุ คือ เหตุการณ์แรกวันที่ 28 มี.ค. 67 ในช่วงค่ำๆ ตนได้ยินเสียงผิดปกติข้างวัดฝั่งแม่น้ำป่าสัก จึงชวนพระในวัดเดินไปดูก็พบว่ามีคน 2 คน กำลังขโมยยกเหล็กรองฝาปิดรางน้ำขึ้นรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง จึงได้ควบคุมตัวไว้ห่างๆ เพราะสังเกตว่าคนร้ายมีอาวุธมีด เกรงว่าจะเป็นอันตราย พร้อมทั้งได้ถ่ายภาพไว้ ตนจึงบอกให้คนร้ายเอาเหล็กมาวางไว้ที่ข้างศาลา จากนั้นคนร้ายก็ได้ขับรถออกไป ตนก็ไม่กล้าที่จะเข้าไปรั้งเพราะเกรงว่าจะได้รับอันตราย จากนั้นจึงได้โทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เหตุการณ์ที่ 2 เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 31 มี.ค. 67 คนร้ายก็ได้เข้ามาขโมยของในจุดเดิมอีก แต่ครั้งนี้คนและพระรวมทั้งชาวบ้าน สามารถควบคุมตัวไว้ได้ และได้โทรแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมารับตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

เจ้าอาวาสวัดพระแก้ว กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา อาตมาก็ได้ไปติดตามความคืบหน้ากับเจ้าหน้าที่ตำรวจมาโดยตลอดว่า ได้ติดตามจับกุมตัวคนร้ายที่เข้ามาขโมยในครั้งแรกได้หรือยัง เพราะอาตมาได้มอบหลักฐานทั้งคลิปวีดีโอและภาพให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปหมดแล้ว แต่ก็ได้รับคำตอบว่ากำลังดำเนินการ กระทั่งเมื่อวานนี้ได้มีหญิงวัยกลางคนขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้างมากับผู้ชาย ซึ่งเมื่อเห็นอาตมาก็จำได้ทันทีว่าเป็นหนึ่งในผู้ก่อเหตุในครั้งแรก เมื่อมาถึงหญิงคนดังกล่าวก็ได้ต่อว่าอาตมาต่างๆนานา ว่า กลั่นแกล้งคนตาบอด ทำให้ได้รับความเสียหาย ตนจึงพยายามอธิบายแต่หญิงคนดังกล่าวก็ไม่ฟัง จึงตัดบทไปว่า ถ้างั้นให้ไปแก้ตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเอาก็แล้วกัน

“อยากจะฝากไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า อยากให้เร่งรัดจับกุมตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว เพราะความเสียหายที่ก่อนั้นเป็นการทำลายทรัพย์สินของทางราชการ มูลค่าความเสียหายนับแสนบาท และถ้าจะซ่อมแซมก็น่าจะต้องใช้งบประมาณจำนวนมากอย่างแน่นอน” พระครูศรีพัชรบวร กล่าว