เมื่อวันที่ 5 เม.ย. ที่หอประชุมอำเภอบ้านบึง จ.ชลบุรี ได้มีการคัดเลือกทหารประจำปี ซึ่งได้มีชายฉกรรจ์ที่มีอายุ 21 ปี ได้มารายงานตัว และมีบรรดาญาติพี่น้องต่างมาร่วมเป็นกำลังใจกันอย่างคึกคัก โดยหนึ่งในนั้นมี นายกันตวิช ฉิมพาลี อายุ 21 ปี เป็นหนุ่มกู้ภัย ได้เข้าจับใบดำใบแดง ซึ่งมีเพื่อนๆ ที่เป็นอาสากู้ภัยด้วยกันเดินทางมาเชียร์และชูป้ายที่มีข้อความไปในทางขอให้จับได้ใบแดง เช่น รักเธอมาก ชาติมาก่อน, คนนี้ชาติต้องการ, ฝากเมียผมด้วย, รั้วของบ้านคือเธอ รั้วของชาติคือพี่ และมีการส่งเสียงเชียร์รอบๆ อาคารคัดเลือก และเมื่อถึงเวลาล้วงจับสลากผลปรากฏว่า นายกันตวิช จับได้ใบดำ ต่างมีเสียงเฮลั่นจากกลุ่มเพื่อนและญาติที่มาร่วมเป็นกำลังใจ

ภายหลังการคัดเลือกแล้วเสร็จ นายกันตวิช ได้ออกมาหานางกรรณิการ์ พรโคกกรวด อายุ 54 ปี  ผู้เป็นยาย และสวมกอดกันด้วยความดีใจ ท่ามกลางกลุ่มเพื่อนกู้ภัยต่างก็ดีใจไปไม่น้อยกว่ากัน หลังจากนั้น นายกันตวิช ก็ได้ออกวิ่งจากสถานที่คัดเลือกทหาร เพื่อกลับไปยังบ้านพักที่ตำบลหนองอิรุณ อ.บ้านบึง ซึ่งเป็นระยะทางเกือบ 20 กิโลเมตร  ท่ามกลางอุณหภูมิที่ร้อนอบอ้าวเกือบทะลุ 40 องศาฯ  โดยตลอดระยะเส้นทาง ได้มีผู้คนที่ใช้เส้นทางต่างให้ความสนใจ และแปลกใจ ว่าทำไมมาวิ่งในช่วงกลางวัน ปกติจะวิ่งในช่วงเช้าหรือช่วงเย็น ส่วนเพื่อนๆ ที่เป็นกู้ภัย ก็ได้นำเอารถพยาบาลขับตามขณะที่วิ่ง  ถ้าหากเกิดเหตุฉุกเฉิน วิ่งต่อไปไม่ไหวจะได้ช่วยเหลือได้ทัน

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามนางกรรณิการ์ พรโคกกรวด ผู้เป็นยาย เล่าว่า มีหลานชายเพียงคนเดียว เพิ่งจะได้ทำงานเป็นพนักงานฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของเทศบาลตำบลหนองชาก ซึ่งหลานชายได้มาปรึกษากับตนว่า ไม่อยากจับได้ใบแดง  ตนจึงพาหลานชายมาไหว้ขอพร หลวงพ่อใย อดีตเจ้าอาวาสวัดบุญฤทธยาราม (วัดบึงบน)  ที่คนบ้านบึงและคนทั่วไปให้ความเคารพศรัทธา และมาทราบภายหลังว่าหลานชาย ได้บนต่อหน้าพระเอาไว้ว่าถ้าจับได้ใบดำ จะขอวิ่งกลับบ้านทันที และจะขอบวชด้วย ตนเองก็มาทราบหลังจากจับใบดำได้แล้ว จึงได้ขอวิ่งกลับบ้านพร้อมกับหลานด้วย

ด้านนายกันตวิช กล่าวว่า ทำงานอยู่เทศบาลตำบลหนองชาก และเป็นอาสากู้ภัย ส่วนที่อยากจับได้ใบดำนั้น เพราะว่าตนเองเป็นห่วงยายที่มีอายุมากแล้ว และตนเองเพิ่งจะได้เริ่มต้นทำงาน จึงอยากขอทำงานและดูแลยาย จึงได้บนบานกับ หลวงพ่อใย ว่า ถ้าหากจับได้ใบดำจะวิ่งแก้บนและบวชให้ และทันทีที่จับได้ใบดำ ตนจึงต้องรีบทำตามคำที่บนเอาไว้ ซึ่งระยะทางจากสถานที่คัดเลือกไปถึงบ้านพักระยะทางเกือบ 20 กิโลเมตร ยอมรับว่าอากาศร้อนและเป็นตะคริว จึงต้องวิ่งสลับเดิน ส่วนข้อความป้ายเชียร์ เพื่อนร่วมงานก็ทำมาหยอกๆ ส่วนการบวชคงจะหลังจากเทศกาลสงกรานต์ผ่านพ้นไปก่อน

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่นายกันตวิช วิ่งกลับบ้านได้มีการแชร์ภาพและวิดีโอลงโลกออนไลน์จำนวนมาก และส่วนใหญ่เห็นว่าควรยกเลิกการเกณฑ์ทหารได้แล้ว เพราะคนที่มีภาระต้องเลี้ยงดูพ่อแม่และเป็นเสาหลักของบ้าน จะทำให้คนข้างหลังลำบาก และทำให้คนที่ติดทหารหมดอนาคต เสียเวลาทำงาน