นายนรินทร์ศักย์ สัทธาประสิทธิ์ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า (จท.) ด้านโครงสร้างพื้นฐานการขนส่งทางน้ำ เปิดเผยว่า ได้ลงพื้นที่ตรวจความพร้อมในการรองรับนักท่องเที่ยวช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 67 พื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี และ จ.กระบี่  โดยมี นายอนันต์ แก้ววิเชียร ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 4 และนายประเวศน์ สุภาชัย ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 5 ให้การต้อนรับ ณ  สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา

สำหรับการลงพื้นที่ในครั้งนี้ เพื่อประชุมร่วมกับผู้แทนจาก บริษัท ซีทรานเฟอร์รี่ จำกัด ผู้แทนจาก บริษัท ท่าเรือราชาเฟอร์รี่ จำกัด (มหาชน) และผู้ประกอบการเรือโดยสารประจำทาง เพื่อพิจารณาแนวทางการขยายระยะเวลาการให้บริการเรือโดยสารประจำทางเส้นทาง ดอนสัก-เกาะสมุย และ ดอนสัก-เกาะพะงัน และเตรียมความพร้อมรองรับการขนส่งผลผลิตทางการเกษตร ณ ห้องประชุมสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขากระบี่ และผ่านระบบประชุมทางไกล (Video Conference) โดยที่ประชุมสรุปดังนี้

1.ขยายระยะเวลาการให้บริการเรือโดยสารประจำทาง เส้นทางดอนสัก-เกาะสมุย และ ดอนสัก-เกาะพะงัน จากเดิมที่สิ้นสุดเวลา 19.00 น. ออกไปเป็น 20.00 น. ตั้งแต่วันที่ 11-17 เม.ย.67 โดยให้สามารถเพิ่มเที่ยวเรือได้ตามความเหมาะสมและให้คำนึงถึงจำนวนยานพาหนะ นักท่องเที่ยวที่ใช้บริการและความพร้อมของเจ้าหน้าที่ประจำท่าเรือ เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานบนเรือและความปลอดภัยในการเดินเรือเป็นสำคัญ

2.เห็นชอบให้เตรียมการรองรับการขนส่งสินค้าการเกษตร ซึ่งออกผลผลิตตามฤดูกาลโดยเฉพาะ ทุเรียน โดยเห็นว่าควรมีการสำรวจความต้องการขนส่ง จำนวนยานพาหนะ จำนวนผลิตผลจากภาคเกษตรและพ่อค้าคนกลาง เพื่อใช้ในการวางแผนการจัดเรือให้สอดคล้องกัน โดยให้กำหนดมาตรการเพื่อควบคุมกำหนดบรรทุกสำหรับยานพาหนะแต่ละประเภท เพื่อป้องกันการบรรทุกน้ำหนักเกิน และทำให้เกิดความปลอดภัยในการขนส่ง

3.เสนอแนะในการเพิ่มประสิทธิภาพและพัฒนาระบบการขนส่งทางน้ำ โดยเร่งปรับปรุงและซ่อมแซมท่าเรือบ้านหน้าทอน อ.เกาะสมุย ซึ่งปัจจุบันอยู่ในสภาพชำรุดทรุดโทรมและเร่งรัดการขุดลอกหน้าท่าเรือบ้านหน้าทอน เนื่องจากมีความตื้นเขิน และจัดหน่วยสอบความรู้ผู้ทำการในเรือในพื้นที่ท่าเรือหรือเกาะ เพื่ออำนวยความสะดวกและลดค่าใช้จ่ายในแก่คนประจำเรือ พร้อมทั้งรับทราบแผนการขยายกองเรือของ บริษัท ซีทรานเฟอร์รี่ จำกัด ซึ่งในปัจจุบันมีเรือจำนวน 9 ลำ และจะเพิ่มอีกจำนวน 2 ลำ ในปี 67 ซึ่งทำให้มีเรือบริการรวม 11 ลำ

ทั้งนี้ยังลงพื้นที่ตรวจสอบท่าเทียบเรือปากคลองจิหลาด จ.กระบี่ ที่รองรับนักท่องเที่ยวไปยังเกาะพีพี พร้อมทั้งตรวจเยี่ยมสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขากระบี่ และสำนักงานพัฒนาและบำรุงรักษาทางน้ำที่ 6 เพื่อรับฟังปัญหาและอุปสรรคในการทำงาน ตลอดจนมอบขวัญและกำลังใจในการทำงานแก่เจ้าหน้าที่ต่อไป