ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 12 เม.ย. วันแรกของเทศกาลสงกรานต์ โดยในวันนี้ได้มีหลายพื้นที่มีพิธีเปิดงานและเริ่มเล่นสงกรานต์กันแล้ว ซึ่งในแต่ละแห่งมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างประเทศเข้าร่วมกิจกรรม ขณะเดียวกันได้มีร้านค้าเข้าไปจำหน่ายอุปกรณ์การเล่นน้ำ ทั้งถังน้ำ ปืนฉีดน้ำ ซองกันน้ำสำหรับใส่โทรศัพท์ เป็นต้น ซึ่งได้มีการโพสต์ลงสังคมออนไลน์ และมีการร้องเรียนราคาปืนฉีดน้ำที่วางจำหน่ายมีราคาสูงถึงกระบอกละ 800 บาททีเดียว ในพื้นที่แยกราชประสงค์ เป็นต้น
นายเลิศศักดิ์ รักธรรม ผู้อำนวยการส่วนบังคับคดี หัวน้าชุดปฏิบัติการพิเศษ (สคบ.) เปิดเผยถึงกรณีมีผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์โพสต์ราคาปืนฉีดน้ำเกินราคา ว่า ปืนฉีดน้ำจัดเป็นประเภทของเล่นที่ควบคุมฉลาก ตาม พ.ศ. 2522 แต่ไม่ได้เป็นสินค้าควบคุมซึ่งการกำหนดราคาสินค้าเป็นไปตามกลไกของตลาดมีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์เป็นผู้กำกับดูแล
ทั้งนี้การขายอุปกรณ์เล่นน้ำในช่วงสงกรานต์จะต้องระบุราคาสินค้าให้ชัดเจน หากพบว่าขายสินค้าไม่ตรงกับป้ายราคาสินค้าถือว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 มาตรา 57 ต้องระวางโทษจำคุก 6 เดือน หรือปรับ 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนปืนฉีดน้ำเป็นของเล่นเป็นสินค้าควบคุมฉลาก ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 มาตรา 47 โดยกำหนดให้ผู้ขายจะต้องระบุฉลากให้ชัดเจน หากเป็นสินค้านำเข้าจะต้องระบุฉลากประเทศต้นทางให้ชัด เช่น นำเข้าจากจีนแต่ฉลากระบุเป็นอีกประเทศถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย ดังนั้นร้านค้าจะต้องระบุประเทศต้นทางให้ชัดเจน ซึ่งพบว่ากระทำผิดต้องระวางโทษจำคุก 6 เดือน หรือปรับ 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ได้สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภายใน และสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ ออกตรวจสอบและติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2567 อย่างใกล้ชิด เพื่อติดตามสถานการณ์ราคาสินค้า ป้องกันการฉวยโอกาสขึ้นราคา เพื่อดูแลค่าครองชีพให้กับประชาชน โดยสั่งควบคุมและตรวจสอบใน 2 ด้าน คือ ด้านราคา ต้องมีการติดป้ายราคาสินค้าที่ชัดเจน และขายตามราคาที่แสดง และด้านคุณภาพ โดยในการซื้อขายสินค้าต้องใช้เครื่องชั่งตวงวัดที่ได้มาตรฐานเที่ยงตรง สำหรับสินค้าบรรจุหีบห่อ ต้องบรรจุสินค้าเต็มตามปริมาณที่กำหนด
สำหรับด้านราคาสินค้าและบริการ ให้รณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการตามสถานีขนส่ง สถานีรถไฟทั่วประเทศ และสถานที่ท่องเที่ยว อาทิ ผู้จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม ผู้จำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค ผู้ให้บริการรับฝากของ บริการรถเข็นสัมภาระ จะต้องปิดป้ายแสดงราคาสินค้าและค่าบริการให้ชัดเจน และหากมีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายอื่นๆ นอกเหนือจากราคาหรือค่าบริการก็ต้องแสดงให้ชัดเจนด้วย หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฎหมาย จำคุก-ปรับ กรณีไม่ปิดป้ายแสดงราคามีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท กรณีจำหน่ายสินค้าราคาสูงเกินสมควร กักตุนสินค้าและปฏิเสธการจำหน่ายต้องโทษจำคุก 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
อย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นการกระทำผิด จำหน่ายสินค้าราคาสูงเกินสมควร หรือจำหน่ายในราคาไม่ตรงกับที่แจ้งไว้ สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือ [email protected] หรือร้องเรียนได้ที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งจะจัดส่งเจ้าหน้าที่ออกไปตรวจสอบและหากพบการกระทำความผิดจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด
