เมื่อวันที่ 17 เม.ย. พลโท ประสาน แสงศิริรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 3 พร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ในประเทศเพื่อนบ้าน ในพื้นที่แนวชายแดน ด้านอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก โดยลงพื้นที่บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 1 ในพื้นที่บ้านริมเมย หมู่ 2 ตำบลท่าสายลวด อำเภอแม่สอด จากนั้นเดินทางไปยังสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 บ้านวังตะเคียนใต้ หมู่ 7 ตำบลท่าสายลวด และฐานปฏิบัติการในพื้นที่ชายแดน ในพื้นที่หมู่ 7 บ้านวังตะเคียนใต้ เพื่อรับทราบสถานการณ์และวางแผนรองรับ ตลอดจนลงพื้นที่เพื่อมอบกำลังใจแก่กำลังพลผู้ปฏิบัติงาน ที่ไม่ได้หยุดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ และตรวจเยี่ยมครัวสนาม ที่ทางกองกำลังนเรศวร ได้มีการจัดกำลังพลมาประกอบอาหารเลี้ยง ส่งกำลังบำรุงแก่กำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่แนวชายแดน

พลโท ประสาน กล่าวว่า มาเยี่ยมให้กำลังใจกำลังพล ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่แนวชายแดน จังหวัดตาก เนื่องจากในห้วงเทศกาลสงกรานต์ กำลังพลไม่ได้กลับไปเยี่ยมครอบครัว จึงร่วมมอบกำลังใจ ซึ่งพบว่าเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน มีขวัญกำลังใจที่ดี พร้อมปฏิบัติหน้าที่เพื่อพี่น้องประชาชนแนวชายแดน โดยเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน เตรียมการตอบโต้กรณีกระสุนเลยมาตกฝั่งไทย และติดตามความพร้อมในการรองรับสถานการณ์ในอนาคต กรณีชาวเมียนมา อพยพข้ามแดนจากเหตุความไม่สงบ เพื่อให้การช่วยเหลือตามหลักสิทธิมนุษยธรรม

“ปัญหาเกิดการสู้รบตามแนวชายแดนนั้น เป็นปัญหาภายในของประเทศสหภาพเมียนมา เราไม่ไปก้าวล่วง ในเรื่องปัญหาภายในประเทศเพื่อนบ้าน แต่ทั้งนี้ก็ไม่อยากให้มีการสู้รบ น่าจะมีการเจรจา พูดคุยกันมากกว่า เพราะทำให้เกิดการสูญเสียกันทั้งสองฝ่าย แต่อย่างไรก็ตามหากมีการสู้รบ เราก็ต้องมีการเตรียมการช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรม และไม่ยินยอมให้ใช้พื้นที่ฝั่งไทย ไปทำอะไรที่ไม่เรียบร้อยในฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งเรื่องการนำอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ จากฝั่งไทย รวมถึงอาวุธกระสุนต่างๆ ซึ่งเรามีมาตรการตรวจสอบเข้มงวดอยู่แล้ว กรณีทหารเมียนมา พูดคุยพยายามหาทางออก ไม่อยากให้มีการสูญเสีย หรือการสู้รบ ก็ขึ้นอยู่กับทหารกลุ่มนั้น ว่าตกลงใจอย่างไร เราไม่ไปก้าวล่วง หากข้ามมา เราก็ต้องดำเนินการตามขั้นตอน” แม่ทัพภาคที่ 3 กล่าว

สำหรับสถานการณ์ในพื้นที่ ไม่ว่าสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 1 หรือสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 พบว่าขณะนี้ยังเห็นการจัดงานประเพณีสงกรานต์ในบ้านเรา ก็ทราบว่าฝั่งเมียวดีเอง ก็มีการจัดกิจกรรมเหมือนกัน การข้ามไปมาก็ยังคงปกติ ส่วนสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 ก็ยังคงเปิดการขนส่งสินค้าตามปกติ เจ้าหน้าที่ยังคงปฏิบัติงานตามปกติ สินค้าที่จะส่งไปเขตภายในก็มีบ้าง อาจจะมีจำนวนน้อยลง เนื่องจากเส้นหลักชำรุด จึงจำเป็นต้องใช้เส้นทางสำรอง ในการเคลื่อนขนส่งสินค้า

อย่างไรก็ตาม การสู้รบในฝั่งเมียนมา สังเกตได้ว่า การค้าก็ยังคงมีการค้าขายตามปกติ ราษฎรในฝั่งเมียนมาไม่ได้รับผลกระทบ แต่ในตัวเมืองจังหวัดเมียวดี เมืองใหญ่ๆ ก็มีการพยายามหลีกเลี่ยงในการใช้เป็นพื้นที่สู้รบ เพื่อให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุด.