จากกรณีเพจข่าว Udonthani Update ได้โพสต์ภาพจากกล้องวงจรปิดร้านขายของชำ มีผู้หญิงถือมีดพร้าวิ่งมาขอความช่วยเหลือ ว่าโดนพี่ชายเอามีดไล่ทำร้าย แต่เจ้าของร้านชำบอกว่าอย่าวิ่งมาที่นี่ ให้แจ้ง 191 ทำให้ผู้หญิงดังกล่าวขว้างมีดเข้ามาบ้าน พร้อมข้อความว่า “หญิงสาวคลุ้มคลั่ง ใช้มีดขว้างเพื่อนบ้านและไล่ฟันพี่ชายตัวเองเหตุเกิดที่ หมู่ 3ต.นาดี อ.เมือง จ.อุดรธานี มีหญิงสาวคลุ้มคลั่ง และมีอาการคล้ายคนติดยา ใช้มีดขว้างเพื่อนบ้านและไล่ฟันพี่ชายตัวเองแล้วปามีดใส่พี่ชายตัวเองสองอัน พี่ชายเลยถือเหล็กไว้ฟาดเพื่อป้องกันตัว แล้วเพื่อนบ้านที่อยู่ฝั่งหลังบ้านเค้าได้ยินเสียงเลยส่องดูจากบ้านเขา

เห็นมีแค่นางในคลิปที่คลั่งและโวยวายว่าคนทำร้าย และอีกอันมาขว้างใส่บ้านเราคือร้านค้าในคลิป เพราะโมโหที่แม่เราและลูกค้าไม่ช่วยเหลือนางจุดที่ขว้างมีดคลิปที่ 2 แม่ยืนอยู่หน้าบ้านป้าเรา นางขู่ว่าจะโยนมีดขึ้นฟ้า ตามภาพเลยค่ะ แต่โยนมาติดประตูรั้วตรงข้างบ้านเรา ซึ่งจุดนั้นเป็นจุดที่พี่สาวเรานั่งทำงานอยู่ ถ้าไม่มีต้นมะนาวกั้นอยู่มีดคือตรงกับคอพี่สาวเราพอดีคะ และคนในหมู่บ้านก็ถูกทำร้ายและถูกก่อกวนหลายคน ฝากหน่วยงานที่สามารถช่วยเหลือได้ ติดต่อมาทาง เพจหน่อยนะคะ

ความคืบหน้าดังกล่าว เมื่อวันที่ 21 เม.ย. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 112 หมู่ 3 ต.นาดี อ.เมือง จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นร้านขายของชำ และโพสต์คลิปดังกล่าว พบ น.ส.สุนันทา แสนวงษ์ อายุ 36 ปี ลูกสาวเจ้าของบ้าน เล่าว่า บ้านตนอาศัยอยู่ด้วยกัน 3 คน มีพ่อ แม่ และตน ส่วนน้องสาวทำงานและอาศัยอยู่ในตัวเมืองอุดรธานี ปกติแม่จะอยู่บ้านคนเดียว ส่วนพ่อและตนไปทำงาน แม่จะมีน้ำใจกับเพื่อนบ้านทุกคน แต่กรณีผู้ก่อเหตุ อายุ 40 ปี ซึ่งอยู่บ้านติดกัน ได้เสพยาจนหลอน พอหลอนยาก็จะอาละวาด และทำร้ายคน

“เวลา 10.43 น. วันที่ 20 เมษายน ได้ยินผู้ก่อเหตุอาละวาดพี่ชาย อายุ 50 ปี ขว้างมีดใส่พี่ชาย 2 เล่ม พอพี่ชายวิ่งไล่ ผู้ก่อเหตุก็ถือมีดพร้า 1 เล่มวิ่งออกมาจากบ้าน ตะโกนว่าพี่ชายจะฟัน มาขอความช่วยเหลือจากแม่ ซึ่งกำลังขายของมีลูกค้าเต็มร้าน ซึ่งแม่ก็ไม่กล้ายุ่ง เพราะถือมีดวิ่งมา จึงไล่ให้ไปที่อื่น พร้อมกับปิดประตูบ้าน พอวิ่งผ่านหน้าบ้านไปผู้ก่อเหตุได้ขว้างมีดกลับหลังเข้ามาในรั้วบ้าน ซึ่งตนนั่งอยู่ตรงนั้นพอดี ถ้าไม่ติดต้นมะนาว ก็เข้าคอตนพอดี เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ พวกตนอยู่อย่างหวาดผวา ก็อยากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบนำตัวไปบำบัด หรือนำตัวออกไปจากที่นี่ไปเลย” น.ส.สุนันทา กล่าว.