นายธเนศ ตันติพิริยะกิจ นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า สถานการณ์ท่องเที่ยวภูเก็ตในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 67 คาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวลดลงจากช่วงไตรมาสแรก เนื่องจากเริ่มเข้าสู่ฤดูฝน ประเมินว่าอัตราการเข้าพักของโรงแรมริมชายหาดลดลง 20% จากช่วงไตรมาสแรกที่ 90% ส่วนโรงแรมในเมืองลดลงราว 50-60% จากช่วงไตรมาสแรกที่ 70% โดยในช่วงฤดูฝนส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวจากตะวันออกกลาง ซีไอเอส รัสเซีย คาซัคสถาน ที่ยังเลือกเดินทางท่องเที่ยวเกาะภูเก็ต เพราะชื่นชอบฤดูฝนของไทย

ทั้งนี้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 5 อันดับแรกที่เดินทางเข้าภูเก็ตมากสุดในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปี 67 ได้แก่ รัสเซีย จำนวน 362,757 คน ฟื้นตัวจากปี 62 119% และฟื้นตัวจากปีก่อนหน้า 122%  จีน 271,122 คน ฟื้นตัวจากปี 62 47% และฟื้นตัวจากปีก่อนหน้า 308%  อินเดีย 78,388 คน ฟื้นตัวจากปี 62 117% และฟื้นตัวจากปีก่อนหน้า 102% คาซัคสถาน 69,732 คน ฟื้นตัวจากปี 62 562% และฟื้นตัวจากปีก่อนหน้า 117%  เยอรมนี 67,212 คน ฟื้นตัวจากปี 62 124% และฟื้นตัวจากปีก่อนหน้า 150%

นายธเนศ  กล่าวว่า ในปี 67 ททท. ได้ตั้งเป้าจำนวนนักท่องเที่ยวไว้ที่ 13-14 ล้านคน หรือฟื้นกลับขึ้นมาใกล้เคียงของปี 62 ก่อนการแพร่ระบาดของโควิด-19 และรายได้จากการท่องเที่ยวโตขึ้นเป็น 4.7 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนโควิดที่ทำได้ 4.4 แสนล้านบาทขณะที่ปี 66 มีรายได้ท่องเที่ยว 3 แสนล้านบาท  

ทั้งนี้มุมของภาคเอกชนไม่อยากให้ตั้งเป้าด้านจำนวน อยากให้โฟกัสเป้ารายได้มากกว่า เพราะเมื่อเทียบกับช่วงที่ผ่านมาพบว่านักท่องเที่ยวคุณภาพมากขึ้น โดยเฉพาะตลาดจีนที่มีการใช้จ่ายมากขึ้น วัดจากข้อมูลของอาลีเพย์ที่ระบุว่า การใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวจีนในปี 66 มีการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 4.5% และเกิดการใช้จ่ายกระจายรอบเกาะภูเก็ต สะท้อนพฤติกรรมตลาดจีนที่เปลี่ยนไปจากเดิมที่หันมาสนใจท่องเที่ยวชุมชนและเลือกทานอาหารชุมชนมากกว่ากินอาหารตามไกด์แนะนำ ทำให้เกิดการกระจายได้สู่ท้องถิ่นมากขึ้นด้วย