เมื่อวันที่ 24 เม.ย. นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม เปิดเผยว่า ได้ลงพื้นที่จังหวัดปัตตานี เพื่อรับฟังข้อมูลการให้บริการสาธารณะ แนวทางการพัฒนาระบบรถโดยสารสาธารณะ และศึกษาความเป็นไปได้การให้บริการอากาศยานทางทะเล (Seaplane) แหลมตาชี ปัตตานี และการพัฒนาพื้นที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เพื่อรองรับการท่องเที่ยว และยกระดับระบบคมนาคม ตลอดจนยกระดับการท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ตามนโยบายนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในการเชื่อมโยงสนับสนุนการเดินทางไปสู่สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญบนถนนสายวัฒนธรรมในย่านการค้าดั้งเดิมของเมืองท่าปัตตานี ชื่อเส้นทาง “อา-รมย์-ดี”
นายสุรพงษ์ กล่าวต่อว่า สำหรับแนวทางการพัฒนาระบบรถโดยสารสาธารณะรองรับการท่องเที่ยว ประกอบด้วย เส้นทางรถโดยสารประจําทาง หมวด 4 สายที่ 8486 ปัตตานี-สายบุรี สายที่ 8486 ปัตตานี-สายบุรี แยกช่วง ปัตตานี-แหลมตาชี และได้กําหนดเส้นทาง (กําหนดใหม่) ปัตตานี-แหลมตาชี เส้นทางไปแหลมตาชี โดยเชื่อมต่อสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดปัตตานี–สถานีรถไฟปัตตานี (โคกโพธิ์)
นายสุรพงษ์ กล่าวอีกว่า ในโอกาสนี้ได้มอบให้บริษัท วิทยุการบิน จำกัด (บวท.) ศึกษาความเป็นไปได้ในการให้บริการควบคุมอากาศยานทางทะเล (Seaplane) แหลมตาชี จังหวัดปัตตานี เพื่อเป็นทางเลือกให้นักท่องเที่ยว ช่วยลดความแออัดภายในสนามบินหลักของประเทศ และเป็นอีกหนึ่งกลไกในการขับเคลื่อน และกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศด้านการท่องเที่ยว โดยนำเทคโนโลยี นวัตกรรมที่ทันสมัยมาใช้กับการดำเนินภารกิจของหน่วยงาน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน
ซึ่งเบื้องต้น บวท. ได้ศึกษารูปแบบปฏิบัติการบิน แบ่งเป็น การบินขนส่งผู้โดยสาร และการบินเพื่อชมภูมิประเทศ โดยมีประโยชน์ที่จะได้รับจากการให้บริการ Seaplane ได้แก่ 1.ลดระยะเวลาการเดินทาง 2.ดึงดูดนักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพสูง (Premium/Luxury) 3. ส่งเสริมให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวในเส้นทางใหม่ ๆ 4.เพิ่มมูลค่าการขนส่ง และ 5.สามารถประยุกต์ใช้ Seaplane ในกิจการต่างๆ นอกจากนี้ได้มอบให้ รฟท. พิจารณาการพัฒนาพื้นที่ในความดูแลที่สามารถพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ได้แก่ สถานีเทพา สถานีวัดช้างให้ สถานีสะพานดำยะลา และสถานีดำสุไหงโก-ลก ซึ่งเป็นไปตามข้อเสนอแนะแผนท่องเที่ยวโครงการใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยสามารถเดินทางไป-กลับได้แบบวันเดย์ทริป.