นายเทียบ หรือลุงเทียบ สมานมิตร อายุ 68 ปี เจ้าของสวนยางพาราที่ได้รับความเสียหาย 36 ไร่ ซึ่งมีพื้นที่ติดกับโกดังที่ 5 ของโรงงานบ้านหนองพะวา ต.บางบุตร อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ที่เกิดเพลิงไหม้ขึ้น พาเดินสำรวจภายในสวนยางพารา พบต้นยางพารายืนต้นตายหลายร้อยต้นคล้ายทุ่งสังหารในสงครามที่ใช้สารเคมีในการทำลายล้างกัน โดยบริเวณพื้นดินพบมีคราบของสารเคมีสีแดงเข้มคล้ายสนิมเหล็ก ร่องน้ำกลางสวนพบน้ำเสียสีดำ และแดงมีคราบน้ำมันลักษณะเป็นแผ่นฟิล์มลอยอยู่บนผิวน้ำ นอกจากยังพบต้นยางพาราในพื้นที่ กำลังยืนต้นแห้งตายอีกจำนวนมากด้วย
ลุงเทียบ กล่าวว่า ก่อนโรงงานมาตั้งสภาพสวนยางพารายังมีสภาพดี และให้ผลผลิตดีเชื่อว่าไม่ได้เกิดจากการดูแลรักษาไม่ดี แต่หลังมาตั้งแล้ว 10 ปีที่ผ่านมาพบว่า ได้ส่งผลกระทบเรื่อยๆ ต้นยางเริ่มยืนต้นตายทีละต้นสองต้น กระทั่งยืนต้นตายยกสวนเป็นอย่างที่เห็นจากสารเคมีซึมใต้ดิน ฝนตกชะล้าง และจากบ่อบำบัดน้ำของโรงงาน ซึ่งที่ผ่านมาก็เรียกร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าผลกระทบเกิดจากโรงงาน แต่ก็ไม่ได้รับการแก้ไขปัญหา ซึ่งช่วงแรกๆ ตนรับไม่ได้กับสภาพของสวนยางพาราเป็นถึงกลับเครียด กินไม่ได้นอนไม่หลับ อีกอย่างตนยังมีบ้านอยู่ในสวนยางด้วย แต่ก็อยู่ไม่ได้ต้องย้ายหนีไปอยู่ที่อื่นจนถึงขณะนี้
ที่สำคัญสวนยางพาราดังกล่าว ยังไม่สามารถทำอะไร จะขายก็ไม่มีใครซื้อ พอมารู้ว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้ก็รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต โดยห่วงหากเกิดฝนตกลงมา น้ำในบ่อบำบัดที่อยู่เหนือสวนยางของตน จะได้รับผลกระทบโดยตรง น้ำเสียจากสารเคมีอย่างที่เห็นจะล้นทะลักเข้าสวน ซ้ำยังไหลลงสู่ลำรางสาธารณะกระทบสิ่งแวดล้อม และชุมชนเสียหายเป็นวงกว้าง ซึ่งผลกระทบในสวนยางของตน และพื้นที่การเกษตรของชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบอยากให้มีการฟื้นฟูให้เป็นรูปธรรมและชัดเจน ซึ่งจริงๆ ไม่อยากได้รับเงินเยียวยาแต่อย่างใด และตอนนี้กังวลเรื่องผลกระทบ เนื่องจากไฟไหม้ผ่านมาหลายวันแล้วยังไม่ดับ อยากให้มีการจัดการเร่งให้ไฟดับเร็วที่สุด