จากกรณีโลกออนไลน์แชร์ภาพของเด็กชายวัย 14 ปีโดนเหล็กสปริงแทงที่ตาตุ่ม อาการสาหัส ต้องให้แพทย์ผ่าตัดเอาออก โดยเหตุเกิดจากเด็กไปกระโดดเล่น “แทมโบรีน” ที่งานวัดเทพชุมนุม เขตเทศบาลตำบลบ้านพรุ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ภายหลังฝ่ายเจ้าของเครื่องเล่นอ้างว่าเป็นความผิดของเด็กที่มาเล่นเอง และไม่มีเงินจ่ายค่ารักษา 10,000 บาท เจรจาต่อรองให้ได้เพียง 2,000 บาท สุดท้ายแม่เด็กต้องจำใจยอมรับเงินดังกล่าวไว้ก่อน เพื่อมีเงินไปให้รพ.ผ่าตัดรักษา ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 24 เม.ย. น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 32 ปี แม่ของ ด.ช.บี (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี เปิดเผยว่า วานนี้ ( 23 เม.ย.67) ระหว่างตนทำงานอยู่ ได้รับโทรศัพท์ว่าลูกถูกเหล็กแทง ตอนนั้นไม่รู้ว่าเกิดอะไรยังไง ได้แต่รีบมาโรงพยาบาลกระทั่งพบว่า มีตัวเหล็กสปริงแทงตาตุ่มของลูกชายลึกประมาณ 2 นิ้ว แพทย์ระบุว่าต้องรอถอดดูก่อน ว่ากระดูกมีรอยร้าวด้วยหรือไม่ อาจจะมีผลกระทบต่อการเดิน

น.ส.เอ เผยอีกว่า หลังเกิดเหตุได้ติดต่อไปยัง นายเก่ง (นามสมมุติ) เจ้าของแทมโพลีน ก็ได้รับคำตอบว่าจะช่วยค่ารักษา จึงระบุว่าค่าผ่าตัด 10,000 บาท แต่อีกฝ่ายบอกว่ามันเยอะไป มันไม่ใช่ความผิดของเขาฝ่ายเดียว น้องก็ผิดที่มาเล่นเอง ตอนนั้นรู้สึกตกใจและเสียความรู้สึก เพราะลูกชายจ่ายเงินค่าเครื่องเล่น ซึ่งทางเจ้าของเครื่องเล่นก็ต้องดูแลให้เกิดความปลอดภัยแต่กลับโทษที่ลูกค้าเข้ามาเล่นว่าผิดด้วย สรุปมันคือความดูแลของใครกันแน่

โดยอีกฝ่ายอ้างว่า ลูกชายอายุเกินน้ำหนักเกิน แต่สงสารเพราะลูกชายอยากเข้าไปเล่นเลยให้เล่น อย่างไรก็ตาม หลังจากตกลงกันไม่ได้ ตนจะใช้สิทธิ์ประกันอุบัติเหตุของลูก ซึ่งทางประกันจะไปเรียกเก็บกับเจ้าของแทมโพลีนภายหลัง แต่อีกฝ่ายก็ไม่ยินยอม ยืนยันจะให้เงิน 1,500 บาท ก่อนจะเพิ่มเป็น 2,000 บาทให้จบกันไป โดยฝ่ายแฟนของเจ้าของแทมโพลีน ยังอ้างด้วยว่า ฝ่ายเขาก็เสียหายเหมือนกัน เพราะต้องเสียค่าเหล็กใหม่เส้นละ 100 บาท ทำให้ตนเสียใจมาก นำเรื่องราวมาโพสต์เอาไว้เป็นเป็นอุทาหรณ์ให้คนอื่นๆ ระวังลูกหลาน

“…ถ้าเขารู้สึกผิดจริงๆ ใช้คำพูดดีกว่านี้ แสดงความห่วงใยหน่อย ตนจะไม่อะไรเลย แต่ในเมื่อเป็นแบบนี้แล้ว ก็ต้องเตรียมนำหลักฐานเข้าแจ้งความ…” นางเอ กล่าว

ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายเก่ง เจ้าของแทมโพลีนว่า วันเกิดเหตุน้องซึ่งเป็นเด็กโตมาขอเล่น โดยยอมจ่ายเงินค่าเข้าใช้บริการเครื่องเล่น ซึ่งตอนแรกจะเข้าบ้านลมด้วย แต่เพราะมีเด็กเล็กจึงไม่อนุญาตให้เข้าไป บอกตรงๆ ว่าตนต้องการเงินเพื่อจ่ายค่าที่ แต่ไม่รู้ว่าทำไมถึงเกิดเรื่องขึ้นได้ ตนทำมา 10 กว่าปี ไม่มีเหตุการณ์แบบนี้ มันเป็นอุบัติเหตุ เป็นเรื่องเข้าใจได้ แต่ฝ่ายญาติคนเจ็บเรียกเงิน 5,000 บาท ตนก็บอกว่าไม่ไหว เหตุไม่ได้เกิดจากตน 100% มันเป็นอุบัติเหตุ สุดท้ายคุยกันต่อหน้าสท.และกรรมการวัด ซึ่งเป็นพยานว่า ทุกอย่างจบด้วยเงิน 2,000 บาท แต่ก็ไม่ทราบว่า ทำไมถึงนำมาโพสต์ให้เป็นข่าวอีก

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยัง วัดเทพชุมนุม เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงจาก นายซี (นามสมมุติ) กรรมการวัดเทพชุมนุม ซึ่งก็ได้รับการยืนยันว่า ทั้งสองฝ่ายเคลียร์จบแล้วเป็นเงิน 2,000 บาท มีการจ่ายเงินกันเรียบร้อย เรื่องราวน่าจะจบลงแล้ว ไม่เข้าใจว่าจะโพสต์เรื่องนี้ทำไมอีก.