ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณประตูระบายน้ำคลองทราย ปากคลองสายสี่หงษ์ประพาส ต.มารวิชัย อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา นางอมรรัตน์ กลึงไกร นอภ.เสนา น.ส.นันทยา เกิดแก้ว ส.อบจ.พระนครศรีอยุธยา อ.เสนา เขต 2 นายวิชัย ตรีสินธุ์ กำนัน ต.มารวิชัย นำรถแบ๊กโฮ เร่งกำจัดวัชพืชและผักตบชวาจำนวนมากที่ขวางทางหน้าประตูระบายน้ำ และภายในคลองคลองสายสี่หงษ์ประพาสออก เพื่อเปิดทางน้ำให้น้ำได้ไหลได้สะดวก ไปช่วยกลุ่มเกษตรกรชาวนา ใน ต.มารวิชัย ต.บ้านหลวง ต.สามกอ ต.ชายนา ต.คู้สลอด และคลองพระยาบันลือ ที่ปลูกข้าวกว่า 20,000 ไร่ ขาดน้ำในการทำนา ข้าวกำลังยืนต้นตาย
น.ส.นันทยา กล่าวว่า ชาวนาประสบปัญหาขาดน้ำในการทำนาเนื่องจากปัญหาภัยแล้ง น้ำในคลองสายสี่ไม่เพียงพอต่อการทำนา ในคลองจะเห็นว่ามีวัชพืชและผักตบชวาอยู่เต็มคลอง ขวางการไหลของน้ำที่มีปริมาณน้ำน้อยอยู่ไหลไปไม่ถึง กลุ่มเกษตรกรที่อยู่ช่วงกลางของคลองเป็นที่ดอน มีวัชพืชผักตบชวาขวางทางน้ำ ทำให้น้ำไหลไปไม่ถึงช่วงกลางคลอง คลองจะมีความยาวประมาณ 17 กิโลเมตร เป็นคลองที่มีความสำคัญอย่างมาก เพราะเกษตรกรหลายตำบลต้องใช้น้ำจากคลองนี้ ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เราได้ประสานขอความร่วมมือจากหลายหน่วยงาน ทั้งกรมชลประทาน อบจ.พระนครศรีอยุธยา อำเภอเสนา ในการเร่งช่วยเหลือชาวนา ท่อระบายน้ำตรงไหนอุดตัน อะไรที่ขวางทางน้ำ เราเร่งแก้ปัญหาทั้งหมด ปัญหาขณะนี้ บางจุดโป๊ะที่จะนำรถแบ๊กโฮลงไปเพื่อขุดลองคลองกำจัดวัชพืช ไม่สามารถลงไปทำงานได้ ถนนกับคลองมีความสูงเนื่องจากระดับน้ำลด ถ้าสามารถดำเนินการขุดลอกคลองกำจัดวัชพืชได้ จะช่วยเหลือเกษตรกรได้อย่างมาก
นายวิชัย กล่าวว่า ชาวนาดีใจที่หลายหน่วยงานได้เข้ามาช่วยเหลือ ทั้งทาง อบจ.พระนครศรีอยุธยา อ.เสนา กรมชลประทาน ส.อบจ.พระนครศรีอยุธยา และภาคเอกชน เราให้ความร่วมมือในเรื่องของการใช้พื้นที่ในการรับน้ำเวลาที่น้ำท่วม โดยทางภาครัฐให้เราทำนาเก็บเกี่ยวช่วงก่อนเดือนกันยายน เราจึงต้องเร่งทำนา แต่มาประสบปัญหาภัยแล้ง ขาดน้ำทำนา อายุของต้นข้าวอยู่ 30 วัน อยู่ในช่วงที่ต้องใช้น้ำในการหล่อเลี้ยงต้นข้าว ถ้าขาดน้ำในช่วง 1-2 สัปดาห์นี้ ต้นข้าวจะตายหรือได้ผลผลิตที่ไม่ดี ชาวนาจึงได้ไปขอความช่วยเหลือหน่วยงานต่างๆ เพื่อมาเปิดทางน้ำให้ไหลไปถึงชาวนา เป็นการช่วยเหลือในเบื้องต้นไม่ให้ต้นข้าวยืนต้นตาย