เมื่อเวลา 14.30 น. เมื่อวันที่ 29 เม.ย. นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง พร้อมคณะ เดินทางเข้ามาติดตามปัญหาการก่อสร้างงบพัฒนาเมืองกาฬสินธุ์ 8 โครงการ โดยโฟกัสไปที่โครงการก่อสร้างระบบระบายน้ำหลักเพื่อบรรเทาปัญหาน้ำท่วมพื้นที่ชุมชนเมืองกาฬสินธุ์ งบประมาณ 148 ล้านบาท รูปแบบการก่อสร้างภาพรวมจะมีการก่อสร้างด้วยการ วางระบบระบายน้ำท่อกลม ขนาด 1.20 เมตร ความยาว 4,563 เมตร ระบบระบายน้ำท่อกลม ขนาด 1.50 เมตร ความยาว 1,825 เมตร ระบบระบายน้ำท่อเหลี่ยมขนาด 1.50 คูณ 1.50 เมตร ความยาว 2,270 เมตร และอาคารชลศาสตร์ จำนวน 2 แห่ง ซึ่งจุดที่ก่อสร้างดังกล่าวจะมีทั้งหมด 6 จุด ผ่าน 36 ชุมชนเมืองกาฬสินธุ์ ที่คาราคาซังไม่แล้วเสร็จ เนื่องจากผู้รับเหมาทิ้งงาน มี นายชาญยุทธ โคตะนนท์ ประธานคณะทำงานเครือข่ายภาคประชาสังคม ในการต่อต้านการทุจริต ป.ป.ท.เขต 4 ประจำ จ.กาฬสินธุ์ และที่ปรึกษาฝ่ายวิชาการ คณะ กธจ.กาฬสินธุ์ นายประหยัด เรเชียงแสน ข้าราชการบำนาญ ด.ต.สมคิด นันทะสมบูรณ์ นายกเทศบาลตำบลลำพาน อ.เมืองกาฬสินธุ์ เข้าติดตามพร้อมสื่อมวลชน โดยได้ดูสภาพการก่อสร้างรวม 5 จุด ที่ก่อสร้างไม่แล้วเสร็จ

เปิดภาพชัดๆ! 8 โครงการ ชาวบ้านเอือม สร้าง 7 ชั่วโคตรไม่เสร็จสักโครงการ

แฉปมเด็ด ‘อธิบดีโยธาฯ’ เคยลงสางปม’ก่อสร้าง 7 ชั่วโคตร’ คาดโทษแล้วแต่ไร้ผล

การลงพื้นที่ นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง ยังได้เดินทางไปให้กำลังใจและรับฟังปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน โดยเฉพาะในจุดที่มีการติดป้ายถนน 7 ชั่วโคตร และได้รับฟังปัญหาความเดือดร้อน ที่ผู้รับจ้างรายใหญ่ไม่รับผิดชอบ ในการจ่ายเงินให้กับผู้รับเหมารายย่อยที่ไปค้างเงินเอาไว้เป็นจำนวนมาก หลายครอบครัวล้มละลาย ซึ่ง อธิบดีโยธาฯ ยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับชาวบ้าน และจะทำงานให้โดยเร่งรัดเพื่อการแก้ไขปัญหาให้รวดเร็วที่สุด

จากนั้น ที่สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองกาฬสินธุ์ นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง ได้เข้าพบผู้แทนผู้บริหารท้องถิ่น ส่วนใหญ่เป็นนายกเทศมนตรีในแต่ละพื้นที่ โดยขณะประชุม ทาง พล.ต.ต.ตรีวิทย์ ศรีประภา ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ ได้ส่งกำลังตำรวจทั้งในและนอกเครื่องมาช่วยดูความเรียบร้อยด้วย จากนั้นสื่อมวลชนได้ร่วมซักถาม เพื่อขอคำตอบ ตามข้อเท็จจริงที่พบว่าเมื่อวันที่ 15 ก.พ. 66 ที่ผ่านมา นายพงศ์รัตน์ อธิบดีกรมโยธาธิการฯ ได้เคยคาดโทษผู้รับจ้างรายนี้ไว้ว่า หากยังดำเนินการไม่ได้ตามเป้าหมาย จะขึ้นบัญชีห้ามเข้ายื่นประมูลงาน จนถึงขั้นการบอกเลิกสัญญาและแจ้งรายชื่อเป็นผู้ทิ้งงานของทางราชการ โดยมีนายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ผวจ.กาฬสินธุ์ (ในขณะนั้น)เป็นพยาน กรณีนี้ปรากฏเป็นข่าวในเว็บไซด์ กรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย เผยแพร่ไว้เมื่อวันที่ 25 ก.พ. 66 แต่ปรากฏว่าจนถึงปัจจุบัน ปี 2567 ผู้รับจ้างรายนี้ก็ยังก่อสร้างไม่เสร็จ ไม่มีผลอะไร ยังคงสร้างผลกระทบต่อคนภายในชุมชน ทำให้เศรษฐกิจเมืองกาฬสินธุ์เสียหายกว่า 7,500 ล้านบาท นอกจากการตรวจสอบพบว่าผู้รับจ้าง เป็นกลุ่มบริษัทเครือญาติกัน มี 2 บริษัท ได้รับงบประมาณพัฒนาเมืองกาฬสินธุ์ จากกรมโยธาธิการและผังเมืองจัดสรรให้ ทั้งหมด 8 โครงการ เม็ดเงินรวมกว่า 558.2 ล้านบาท มีพฤติกรรมเดียวกัน สร้างไม่เสร็จ ไม่ก่อสร้างต่อเนื่อง มีพฤติกรรมทิ้งงาน และเกือบทุกแห่งจะหมดสัญญา ส่วนใหญ่ที่หมดสัญญาไปแล้ว ยังได้รับการต่อสัญญา ค่าปรับเป็น 0 บาท ทำให้ชาวบ้านออกมาร้องเรียน ธรรมาภิบาลจังหวัดกาฬสินธุ์ และสื่อมวลชน ให้ตรวจสอบเพื่อระงับยับยั้งความเสียหาย และเพื่อปกป้องงบประมาณซึ่งเป็นเงินภาษีของประชาชน

นายพงศ์รัตน์ อธิบดีกรมโยธาธิการฯ กล่าวว่า ปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนจังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งเกิดจากผู้รับจ้าง 2 ราย ประกอบด้วย หจก.ประชาพัฒน์ และ หจก.เฮ็งนำกิจ เป็นสองห้างหุ้นส่วนที่ได้รับงาน 8 โครงการ และเป็นกลุ่มเดียวกัน จากการตรวจสอบพบว่า การก่อสร้างไม่แล้วเสร็จตามแผนงานที่กำหนดทั้งหมด และก่อนหน้าตนก็เคยมาลงพื้นที่เพื่อติดตามปัญหานี้ พร้อมคาดโทษเอาไว้ เบื้องต้นจากการรับทราบข้อมูล ในจำนวน 8 โครงการนั้น ยังก่อสร้างไม่เสร็จ ที่กำลังตรวจสอบตามสัญญาที่เกี่ยวข้องกับระบบพัสดุ คาดว่าจะมีไม่ต่ำกว่า 6 โครงการ ยืนยันว่าจะทำการยกเลิกงานทั้งหมด พร้อมทั้งจะขึ้นบัญชีห้ามเข้ายื่นประมูลงาน จนถึงขั้นการบอกเลิกสัญญาและแจ้งรายชื่อเป็นผู้ทิ้งงานของทางราชการ ตามระเบียบราชการ โดยนับจากนี้ คาดว่าไม่เกินสิ้นเดือน เม.ย. นี้ จะสามารถออกหนังสือยกเลิกโครงการ ซึ่งแน่นอนว่า จะทำให้ หจก.ประชาพัฒน์ และ หจก.เฮงนำกิจ จะไม่สามารถเข้ายื่นประมูลงานจากกรมโยธาธิการและผังเมืองได้อีก หากจะดำเนินกิจการก็ต้องเริ่มต้นใหม่ทั้งหมด

“ส่วนการแก้ไขปัญหานี้ หลังจากที่สรุปเรื่องการยกเลิกสัญญาเป็นผู้รับเหมาทิ้งงานแล้ว ทางกรมโยธาธิการและผังเมือง ก็จะดำเนินการเร่งรัดการก่อสร้างให้รวดเร็วที่สุด ส่วนมาตรการการเยียวยาในเรื่องปัญหาก่อสร้างทางถนนจะทำการซ่อมแซม ส่วนปัญหาหนี้สินที่เกิดจากการรับจ้างช่วง ก็จะให้ทางโยธาธิการและผังเมืองกาฬสินธุ์ รวบรวมรายละเอียด เพื่อให้ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นหลักในการเป็นสื่อกลางในการเรียกร้องค่าเสียหายทางแพ่งต่อไป” อธิบดีกรมโยธาธิการฯ กล่าวทิ้งท้าย